จำเป็นมั้ย? เมื่อ สตาร์ทรถ ควรวอร์มเครื่องก่อนขับ

เรื่องนี้อาจจะไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนขับรถ แต่ก็เป็นเรื่องคาใจสงสัยกันมาก บางคนพอเสียบกุญแจรถสตาร์ทเครื่องยนต์ติดปุ๊ปออกตัวปั๊ป แต่ก็เคยได้ยินมาว่าหากจอดรถทิ้งไว้ทั้งคืน เมื่อกลับมาสตาร์ทเครื่องยนต์ควร วอร์มเครื่อง ยนต์ทิ้งไว้สักพักก่อนขับ เรื่องนี้จะมีข้อเท็จจริงแค่ไหน

ที่จริงแล้วการสตาร์ทเครื่องยนต์หลังจากไว้นานๆ แล้วขับรถออกไป ไม่ส่งผลดีกับเครืองยนต์ของรถยนต์แน่นอน เนื่องจากรถเมื่อจอดทิ้งไว้เปป็นเวลานาน เครื่องยนต์ระบบกลไกการทำงานต่างๆ ในรถ รวมถึงอุณหภูมิจะเหมือนรีเซ็ตหหยุดการทำงาน และเมื่อคุณเพิ่งสตาร์ดเครื่องยนต์ น้ำมันเครื่องยังสูบไปเลี้ยงเครื่องยนต์ในส่วนต่างๆ ยังไม่ทั่วถึง อุณหภูมิเครื่องยนต์ยังอยู่ในระดับต่ำ หากใส่เกียร์ขับทันทีจะเกิดปัญหาการสึกหรอของเครื่องยนต์ตามมา แม้ปัญหาจะไม่เกิดขึ้นทันที แต่หากคุณมีพฤติกรรมเสียบกุญแจปุ๊บออกรถปั๊ป เครื่องยนต์จะมีปัญหาในระยะยาวอย่างแน่นอน
อีกสาเหตุที่ไม่ควรใส่เกียร์เหยียบคันเร่งออกไปทันที เนื่องจากเครื่องยนต์จะทำงานหนักมากขึ้น การสึกหรอจะเกิดขึ้นเนื่องจากส่วนประกอบต่างๆ ในเครื่องยนต์ยังไม่มีการขยายตัวพูดง่ายๆ ให้นึกภาพออกคือลองนึกภาพเหล็กเสียดสีกันย่อมเกิดกรสึกหรอเป็นธรรมดา แต่ถ้ามีสารหล่อลื่น ซึ่งก็คือน้ำมันไหลเวียนผ่านเครื่องยนต์เวลาทำงาน ชิ้นส่วนต่างๆ จะลดการเสียดสีลง เครื่องยนต์ทำงานได้ง่ายขึ้น
Cleaning car engine
ในกรณีที่จอดรถทิ้งไว้นานๆ ข้ามคืน เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ ควร วอร์มเครื่อง ยนต์ทิ้งไว้ประมาณ 3 -5 นาที เพื่อให้เครื่องยนต์มีความร้อน ความร้อนนี้จะลดความหนืดของน้ำมันเครื่อง ทำให้น้ำมันเครื่องทำงานลดการเสียดสีของเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มที่
นอกจากนั้นก่อนบิดกุญแจรถสตาร์ทเครื่องยนต์ควรสำรวจฟังค์ชั่นการใช้ไฟฟ้าต่างๆ ในตัวรถด้วยว่ามีการปิดหรือไมน่ ทั้งปุ่มเครื่องปรับอากาศ วิทยุ เพื่อช่วยให้เครื่องยนต์สตาร์ดติดง่ายขึ้น เนื่องจากการเปิดฟังค์ชั่นการใช้งานไฟฟ้าในรถทิ้งไว้แล้วสตาร์ทจะเป็นการดึงกำลังไฟฟ้าในการสตาร์ทเครื่องยนต์
เรียบเรียง : kcycar.com
ที่มา : auto.mthai.com/news/tips/31267.html 







รู้หรือไม่ ใบขับขี่หมดอายุ ต้องต่อภายในกี่วัน


ใบขับขี่ หรือ "ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์" เป็นบัตรที่ผู้ขับขี่รถยนต์ทุกคนจะต้องพกติดตัวไว้ทุกครั้งเมื่อขับขี่รถยนต์ ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 (มาตรา 64) หากฝ่าฝืน มีโทษดังนี้
      - ผู้ขับรถยนต์โดยไม่มีใบขับขี่  ผู้นั้นต้องโทษจำคุก 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
      - กรณีที่ผู้ขับขี่ขับรถยนต์ ในขณะที่ใบขับขี่ของตนเองหมดอายุ (มาตรา 65) จะต้องโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท

ใบขับขี่หมดอายุไม่ใช่เรื่องเล็กๆแล้วนะครับ แล้วเราจะต้องต่ออายุใบขับขี่เมื่อไหร่กันล่ะ จำได้ง่ายๆ เลยครับ
1. ผู้ขับขี่สามารถต่ออายุใบขับขี่ก่อนหมดอายุได้ล่วงหน้า 3 เดือน หรือภายใน 1 ปีหลังจากหมดอายุไปแล้วครับ
2. หากใบขับขี่หมดอายุไปแล้วเกินกว่า 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ผู้ขับขี่จะต้องสอบข้อเขียนใหม่กันเลยทีเดียว โดยการสอบข้อเขียน ข้อสอบมีอยู่ 50 ข้อ ผู้ขับขี่จะต้องตอบให้ถูก 45 ข้อจาก 50 ข้อ ถึงจะผ่านครับ
3. กรณีที่เกิน 3 ปี ผู้ขับขี่ต้องสอบข้อเขียน และสอบภาคปฏิบัติทั้ง 3 ท่าใหม่ เช่นเดียวกับผู้ที่ขอรับใบขับขี่เป็นครั้งแรก
       ท่าที่ 1  จอดรถตรงจุด
       ท่าที่ 2  ถอยรถเข้าซอง (หักพวงมาลัยได้ไม่เกิน 7 ครั้ง)
       ท่าที่ 3  ทางเทียบขนานทางเท้า
ที่สำคัญอย่าลืมเตรียมใบรับรองแพทย์ไปด้วยนะครับ!
โดย หลักฐานประกอบคำขอ มีดังนี้
     
1. ใบขับขี่เดิม หรือใบแทน
     
2. บัตรประชาชนฉบับจริง พร้อมสำเนา
เมื่อหลักฐานพร้อมเราก็ลุยกันเลยครับ ขั้นตอนการดำเนินการ มีดังนี้
     1. ตรวจสอบเอกสาร และออกคำขอ
     2. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
            - ทดสอบการมองเห็นสี ที่จำเป็นในการขับรถ ซึ่งก็คือ การมองเห็น สีเขียว เหลือง แดง
            - ทดสอบสายตาทางลึก โดย ผู้ขับขี่จะต้องปรับแท่งแนวตั้งให้ขนานกันได้มากที่สุด
            - ทดสอบสายตาทางกว้าง ผู้ขับขี่จะต้องสามารถบอกสีที่มุมตา โดยล็อกหน้าตรงได้อย่างถูกต้อง
            - ทดสอบปฎิกิริยาเท้า (ความสามารถในการใช้เบรคเท้า)
     3. เข้ารับการอบรมกฎจราจร 1 ชั่วโมง
     4. ผู้ขับขี่ชำระค่าธรรมเนียมจำนวน 605 บาท 
                 ค่าใบอนุญาตขับขี่รถยนต์        500 บาท 
                 ค่าถ่ายรูปและพิมพ์บัตร           100 บาท
                 ค่าคำร้อง                                5 บาท
     พร้อมถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่ และรับใบขับขี่
เห็นมั้ยล่ะครับว่า "การต่ออายุใบขับขี่เป็นเรื่องง่ายๆ"  ที่สำคัญอย่าปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุก่อนแล้วแล้วจึงไปดำเนินการต่ออายุล่ะ เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะโดนตำรวจจับ ในข้อหาขับขี่รถยนต์โดยที่ใบขับขี่หมดอายุนะครับ

ที่มา:
กรมการขนส่งทางบก
www.dlt.go.th/th/ 
www.tipinsure.com

www.facebook.com/kcycar