วิธีดูแลรถ ช่วงหน้าร้อน​

ปภ.​ ​แนะประชาชนตรวจสอบและดูแลรักษาอุปกรณ์​ เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางช่วงฤดูร้อน



          นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ระยะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนแล้วการขับรถในช่วงฤดูร้อนซึ่งมีสภาพอากาศร้อนและแสงแดดแรงจัดกว่าฤดูกาลอื่น ทำให้ผู้ขับขี่มีสายตาพร่ามัวและเกิดอาการง่วงนอนง่ายกว่าปกติ อีกทั้งการไม่ดูแลอุปกรณ์ประจำรถและเครื่องยนต์ให้พร้อมใช้งาน จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัย

          กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)​ ​ขอแนะวิธีตรวจสอบและดูแลรักษาอุปกรณ์ประจำรถยนต์ เพื่อให้การเดินทางในช่วงฤดูร้อนเป็นไปด้วยความปลอดภัย ดังนี้ 



​- ​เลือกติดตั้งฟิล์มกรองแสง​ ที่ได้มาตรฐาน
วิธีดูแลรถ ช่วงหน้าร้อน​​
          มีคุณสมบัติในการลดความร้อนและสะท้อนแสงในระดับที่เหมาะสม จะช่วยลดความจ้าและกรองความสว่างของแสงอาทิตย์ ที่ทำให้ผู้ขับขี่ต้องเพ่งสายตามองเส้นทาง ส่งผลให้ง่วงนอนง่ายกว่าปกติ อีกทั้งไม่ควรติดตั้งฟิล์มกรองแสงที่สะท้อนแสงมากเกินไปเพราะแสงแดดจะทำมุมกับกระจกรถและสะท้อนเข้าตาผู้ขับรถรายอื่น ทำให้สายตาพร่ามัว ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้

- ​หมั่นทำความสะอาดกระจกหน้าและหลังรถอยู่เสมอ
วิธีดูแลรถ ช่วงหน้าร้อน​​

          ฉีดน้ำยาเช็ดกระจกแล้วใช้ผ้าแห้ง กระดาษหนังสือพิมพ์ทำความสะอาดกระจกแล้วเปิดใบปัดน้ำฝนเช็ดทำความสะอาดกระจกโดยเติมน้ำยาทำความสะอาดหรือแชมพูลงไปในกระปุกน้ำฉีดกระจกเล็กน้อย จะช่วยชะล้างคราบสกปรกและฝุ่นละอองได้สะอาดมากขึ้น ทำให้มองเห็นเส้นทางได้อย่างชัดเจน แต่ไม่ควรใช้ที่ปัดน้ำฝนทำความสะอาดในขณะที่กระจกแห้ง เพราะจะทำให้กระจกเป็นรอยขูดขีด ส่งผลกระทบต่อทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทาง

​- ​ตรวจสอบยางรถยนต์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ

วิธีดูแลรถ ช่วงหน้าร้อน​​

          ช่วงฤดูร้อนผิวถนนมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ ทำให้อากาศภายในยางรถยนต์ขยายตัว ส่งผลให้ยางเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติและเสี่ยงต่อการระเบิดได้

​- ​ตรวจสอบน้ำในหม้อน้ำบ่อยครั้งขึ้น​​

วิธีดูแลรถ ช่วงหน้าร้อน​​

          ​ตรวจเช็กน้ำ​ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่พร่องหรือต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อป้องกันเครื่องยนต์ร้อนจัด โดยเฉพาะรถที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 5 ปี ควรตรวจสอบเป็นประจำทุกสัปดาห์

          หมั่นเติมน้ำสะอาดเมื่อน้ำเริ่มพร่องขณะขับรถควรสังเกตเข็มวัดระดับความร้อนบนหน้าปัดรถยนต์ ซึ่งมีค่าระหว่าง COLD (C) กับ HOT (H) หากระดับน้ำในหม้อน้ำพร่อง ค่าความร้อนจะสูงขึ้น ทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัด ส่งผลให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหายได้

          การแก้ไขกรณีหม้อน้ำแห้งขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน ผู้ขับขี่ไม่ควรฝืนขับรถไปต่อ เพราะอาจเกิดอันตรายมากขึ้น ให้นำรถจอดริมข้างทางในบริเวณที่ปลอดภัย ไม่ควรดับเครื่องยนต์และเติมน้ำในหม้อน้ำทันที​

          ​ให้ติดเครื่องยนต์เดินเบาสักระยะ พร้อมเปิดฝากระโปรงหน้ารถ รอจนอุณหภูมิลดลงและเครื่องยนต์เริ่มเย็นตัว จึงเปิดฝาหม้อน้ำแล้วค่อย​ ​ๆ​ ​เติมน้ำสะอาดลงไปทีละน้อยที่สำคัญห้ามเปิดฝาหม้อน้ำในขณะที่เครื่องยนต์ร้อนจัด เพราะจะได้รับอันตรายจากไอน้ำที่พุ่งขึ้นมา

          ​สุดท้าย หน้าร้อนนี้​นอกจากดูแลสุขภาพรถแล้ว อย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเองด้วย เพราะการขึ้นลงรถในแต่ละครั้งอุณหภูมิที่ร่างกายปรับกระทันหันเป็นสาเหตุของการป่วยด้วยครับ

ข้อมูล : car.kapook.com
เรียบเรียง : www.kcycar.com

7วิธี ดูแลรถในช่วงอากาศร้อน

อากาศร้อน ถือเป็นภัยร้ายเงียบๆ ที่มาหารถเราโดยไม่รู้ตัว ทั้งหม้อน้ำแห้ง หรืออาการ Overheat ของเครื่องยนต์ การเสื่อมสภาพของลูกยางต่างๆ ซึ่งจะมีวิธีป้องกัน และแก้ไขอย่างไรมาดูกันเลยครับ

ขั้นตอนการดูแลรถยนต์ในช่วงฤดูร้อน

- หากสภาพอากาศมีอุนหภูมิที่ร้อนจัด หรือพื้นถนนมีความร้อนที่สูง หรือร้อนจริงๆ ควรที่จะหยุดพักรถทุกระยะ 100- 200 กิโล เพื่อรักษาสภาพของเครื่องยนต์ไว้ให้อยู่กับเรานานๆ
ห้ามนำรถไปจอดกับพื้นที่มีน้ำขัง และขับรถไปในพื้นที่ ที่มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด จะทำให้ยางบวม หรือระเบิด เนื่องจากอุณหภูมิที่เปลี่ยนเร็วเกินไป
- ตรวจสอบที่ปัดน้ำฝน และยางปัดน้ำฝน ความร้อนจะทำให้ยางปัดน้ำฝน แข็งและกรอบ หากจอดในพื้นที่ที่ร้อน จะทำให้ประสิทธิภาพของยางปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว
ไม่ปรับตำแหน่งของเทอร์โมสตรัทไปที่ตำแหน่ง เย็นสุด ตลอดเวลา รวมถึงการเปิดกระจกเมื่อเปิดแอร์ จะช่วยให้ถนอมคอมเพรสเซอร์ไม่ให้ทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา
หมั่นตรวจเช็คหม้อน้ ำและระดับของน้ำกรั่น หมั่นเติมน้ำสะอาด และถ่ายน้ำในหม้อน้ำทิ้งทุก 4-6 เดือน โดยเฉพาะรถที่มีอายุการใช้งานมา 5 ปี ควรตรวจสอบสัปดาห์ละครั้ง
- เมื่อลงจากรถ ควรปิดประตูให้สนิท เพราะว่าไฟในรถอย่างเช่น ไฟประตู ไฟเพดาน จะติดอัตโนมัติ หากปิดไม่สนิทแล้วทิ้งไว้เป็นเวลานานจะทำให้เกิดความร้อนสะสมที่ตัวสายไฟตัวบวกกับแดด และสภาพอากาศที่ร้อนจัด เมื่อความร้อนเกินขีดจำกัดของสายไฟ ไฟฟ้าลัดวงจรก็อาจจะเกิดขึ้นได้
 
สุดท้าย ฝากไว้กับการสังเกตหน้าปัดความร้อนบ่อยๆ ซึ่งโดยปกติแล้วค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ระหว่าง ตัว C และ H อุนหภูมิเฉลี่ย 80 – 90 องศาเซลเซียส แต่ถ้าหาก เข็มวัดชี้มาทาง อักษร H มากเกินไป แน่นอนว่าเครื่องยนต์ร้อนมากๆ มีความร้อนสะสมมากเกินไป ให้คุณรีบปิดแอร์ และหาที่จอดข้างทาง พร้อมกับเปิดฝากระโปรง เพื่อลดความร้อนสะสม
หากมีไอน้ำ หรือควันพุ่งขึ้นมา 
*** แนะนำว่าห้ามเอาน้ำราดลงไปที่ตัวเครื่องในตอนที่มีความร้อนสูงนะครับเพราะจะทำให้เครื่องยนต์ของคุณมีการปรับเปลี่ยนอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว และอาจก่อให้เกิดการเครื่องแตกหรือกรอบ

ข้อมูล : http://www.thaicarlover.com
เรียบเรียง : www.kcycar.com