รฟม. แจ้งเปลี่ยนแปลงการให้บริการรถไฟเชื่อมต่อระหว่างสถานีบางซ่อน – สถานีบางซื่อ – สถานีบางซ่อน



โดยงดให้บริการเดินรถไฟเชื่อมต่อในวันเสาร์ เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 24 ธ.ค. 2559 
 บริการรถไฟเชื่อมต่อ(ปรับอากาศ)จะยังคงมีให้บริการในทุกวันจันทร์ – วันศุกร์ ช่วงเช้าเวลา 06.30 – 09.30 น. และช่วงเย็น 16.30 – 20.30 น.






ติดตามข่าวสารยานยนต์ก่อนใครผ่านทาง Facebook


เส้นทางลัดรถไม่ติด!! ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560

รูปภาพ: https://goo.gl/BEHwg3

@Ar-pae.com - เส้นทางลัดรถไม่ติด!! กรมทางหลวง เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 คาดว่า จะมีประชาชนใช้บริการทางหลวงเป็นจำนวนมาก กรมทางหลวงจึงได้ทำการแนะนำเส้นทางเลือกในการเดินทางสู่จังหวัดทางภาคเหนือ, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ โดยได้บูรณาการร่วมกับตำรวจทางหลวง และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “เดินทางอุ่นใจ ปลอดภัยไปกับ กรมทางหลวง” เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัยในการเดินทาง รวมทั้งเป็นข้อมูลให้กับประชาชนในการศึกษาเส้นทาง ซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัดและลดระยะเวลาในการเดินทางต่อไป

SOURCE >>> https://goo.gl/BEHwg3
-----------------------------------------------------------
บรรดาแฟนคลับ กูรูขั้นเทพ แอนด์เซียนทั้งหลาย อาแปะนิมนต์ให้ท่านไปเม้าท์กันต่อที่ ArPaeDotCom ณ. แหล่ง Follow ด้านล่างนี่ด้วยกั๊บ
Follow LINE Official ID : http://goo.gl/yfllON 
Follow Instagram : https://goo.gl/bhdfMi 
Follow Google+ : http://goo.gl/7cIRAu
Follow Twitter : http://goo.gl/v85N6Z
Follow Fanpage : http://goo.gl/vDYUzT Clips/Photo Credit by : http://www.springnews.co.th/
ขอบคุณเบาะแสข่าวโดยทีมข่าวอาแปะครับ
#อาแปะ #arpaedotcom #arpae #News #ข่าว #ด่วน #Sale #Promotion #โปรโมชั่น #แอร์เวย์ #Airways #แอร์ไลน์ #Airlines #Hotels #โรงแรม #เส้นทาง #ในประเทศ #ต่างประเทศ #ท่องเที่ยว #Travel #ตั๋วเครื่องบิน #AirTicket #เดินทาง #สายการบิน #สนามบิน #ราคา

เส้นทางลัดรถไม่ติด!! กรมทางหลวง เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 คาดว่า จะมีประชาชนใช้บริการทางหลวงเป็นจำนวนมาก กรมทางหลวงจึงได้ทำการแนะนำเส้นทางเลือกในการเดินทางสู่จังหวัดทางภาคเหนือ, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ โดยได้บูรณาการร่วมกับตำรวจทางหลวง และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “เดินทางอุ่นใจ ปลอดภัยไปกับ กรมทางหลวง” เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัยในการเดินทาง รวมทั้งเป็นข้อมูลให้กับประชาชนในการศึกษาเส้นทาง ซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัดและลดระยะเวลาในการเดินทางต่อไป

SOURCE >>> https://goo.gl/BEHwg3


ติดตามข่าวสารยานยนต์ก่อนใครผ่านทาง Facebook


1ม.ค.60เพิ่มเวลาอบรมมือใหม่ทำใบขับขี่เป็น5ชม.


รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
ขนส่ง ยกระดับมาตรฐานคุณภาพผู้ขับรถ ตามโครงการ Sure Driving/Smart Driver เพิ่มความเข้มข้นการออกใบอนุญาตขับรถ ปรับเพิ่มเนื้อหาอบรม สำหรับการขอรับใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราว จากเดิม 4 ชม. เป็น 5 ชม. เริ่ม 1 ม.ค.60 ...
วันที่ 22 ธ.ค.59 นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลและส่งเสริมด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน จึงได้จัดทำโครงการยกระดับมาตรฐานคุณภาพผู้ขับรถ Sure Driving/Smart Driver เพื่อเพิ่มคุณภาพมาตรฐานของผู้ขับรถให้มีทักษะและความรู้การขับรถอย่างปลอดภัย ลดปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนและลดสถิติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทย ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ซึ่งจะปรับหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตขับรถให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น โดยปรับเพิ่มเนื้อหาอบรม สำหรับการขอรับใบอนุญาตขับรถใหม่ (ชนิดชั่วคราว) จากเดิม 4 ชั่วโมง เป็น 5 ชั่วโมง โดยเพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับข้อปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน และการขับรถอย่างปลอดภัยให้มากขึ้น เริ่มใช้หลักสูตรใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังรวมถึงกรณีผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขับรถชั่วคราวแล้ว แต่ใบอนุญาตขับรถเดิมสิ้นอายุเกินกว่า 1 ปี ต้องเข้ารับการอบรมตามหลักสูตรใหม่ โดยบุคลากรผู้ทำหน้าที่เป็นวิทยากรของกรมการขนส่งทางบก โรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก และหน่วยงานภาครัฐ ที่ได้ลงนามบันทึกในการจัดอบรมภาคทฤษฎีกับกรมการขนส่งทางบก จำนวนกว่า 500 คน ซึ่งทั้งหมด ได้ผ่านการอบรมสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวทางการสอนตามหลักสูตร 5 ชั่วโมง สามารถนำความรู้ไปถ่ายทอดให้แก่ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถได้อย่างครบถ้วน มีประสิทธิภาพ และเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
สำหรับหลักสูตรที่มีการปรับปรุง เนื้อหาประกอบด้วย (กฎหมายว่าด้วยรถยนต์, กฎหมายว่าด้วยทางหลวง และกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก) จำนวน 1 ชั่วโมง 30 นาที การขับรถอย่างปลอดภัยจำนวน 2 ชั่วโมง จิตสำนึกและมารยาทในการขับรถจำนวน 1 ชั่วโมง และข้อปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินและการให้ความช่วยเหลือและปฐมพยาบาล จำนวน 30 นาที การปรับเพิ่มจำนวนชั่วโมงอบรมเพื่อปลูกฝังจิตสำนึกความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ซึ่งเมื่อมีความรู้ความเข้าใจกฎการขับขี่ที่ถูกต้อง อุบัติเหตุบนท้องถนนก็จะลดลงตามไปด้วย
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบก ยังได้เพิ่มทางเลือกให้ประชาชนที่อาจไม่สะดวกในการติดต่อเข้ารับการอบรมกับกรมการขนส่งทางบก ในวันและเวลาราชการ สามารถเลือกเข้ารับการอบรมกับโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก หรือหน่วยงานภาครัฐที่ทำความตกลงกับกรมการขนส่งทางบก ภายใต้หลักสูตรเดียวกัน และนำหนังสือรับรองผ่านการอบรมมายื่นแสดงเป็นหลักฐานขอเข้ารับการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ทดสอบข้อเขียน (E-exam) และทดสอบขับรถกับสำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ
ขณะที่น.พ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน หรือ ศวปถ. มองว่า การเพิ่มระยะเวลาอบรมของไทย ยังไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลง หรือลดจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ ถึงแม้ว่าจะขยายเวลาอบรมเป็น 15 ชั่วโมง ซึ่งยังถือว่า น้อยเกินไปเมื่อเทียบกับต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ที่อบรมถึง 30 ชั่วโมง ซึ่งควรมีเวลาให้ผู้ขับขี่ฝึกทักษะกับผู้เชี่ยวชาญแบบตัวต่อตัว เพื่อให้รับรู้โอกาสเสี่ยง รวมทั้งบังคับกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัดควบคู่กัน.

Toyota C-HR 2017 ใหม่จัดเต็ม! ทั้งภายนอก-ภายใน

Toyota C-HR 2017
         Toyota C-HR เป็นรถครอสโอเวอร์รุ่นใหม่ล่าสุดที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐาน TNGA (Toyota New Global Architecture) ร่วมกันกับ Toyota Prius 2016 ซึ่งพัฒนาให้เป็นคู่แข่งตรงกับ Honda HR-V, Nissan Juke รวมถึงอีกหลายรุ่นในเซ็กเม้นท์นี้

Toyota C-HR 2017

    แม้ว่าคันที่เรานำมาฝากเป็นเวอร์ชั่นยุโรปที่ติดตั้งพวงมาลัยซ้าย แต่ดีไซน์ทั้งภายนอก-ภายในคาดว่าจะเหมือนกับที่จะเข้ามาจำหน่ายในบ้านเราช่วงปี 2018 เพียงแต่มีอุปกรณ์มาตรฐานบางอย่างที่ต่างกันออกไป ซึ่งเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในฝรั่งเศสหากแบ่งตามระบบขับเคลื่อนจะมีให้เลือกถึง 3 แบบ ทั้งรุ่นเบนซินเทอร์โบ 1.2 ลิตร จำนวน 4 รุ่น รุ่นเบนซินเทอร์โบ 1.2 ลิตร ขับเคลื่อนสี่ล้อจำนวน 3 รุ่น และรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดอีกจำนวน 3 รุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีรุ่นย่อยแยกออกไปอีก ได้แก่ Active, Dynamic, Graphic และ Distinctive

Toyota C-HR 2017

          ภายนอกมาพร้อมไฟหน้าแบบ LED, ไฟท้ายแบบ LED (อ็อพชั่นเสริมสำหรับรุ่นท็อปสุด Graphic และ Distinctive) พร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว (รุ่นล่างสุดมีขนาด 17 นิ้ว) ติดตั้งระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, หลังคาสีดำ รวมถึงระบบ Smart Entry ทำงานคู่กับปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์, กระจกมองข้างปรับพับอัตโนมัติ พร้อมไฟส่องสว่างรูปโลโก้ C-HR

Toyota C-HR 2017

   ห้องโดยสารภายในติดตั้งระบบอินโฟเทนเม้นท์ Toyota Touch 2 ขนาด 8 นิ้ว พร้อมช่องต่อ USB/AUX และบลูทูธ โดยในรุ่นท็อปสุดมาพร้อมลำโพง JBL จำนวน 9 จุดรอบคัน, หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ 3 ก้าน รวมถึงระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ประกอบด้วย ระบบเตือนการชนด้านหน้า, ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ, ระบบเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่, ระบบอ่านป้ายจราจรอัจฉริยะ เป็นต้น

Toyota C-HR 2017

Toyota C-HR 2017

       ด้านขุมพลังเวอร์ชั่นยุโรป ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.2T ให้กำลังสูงสุด 116 แรงม้า (PS) ติดตั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีดในรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ และเกียร์อัตโนมัติ CVT ในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ขณะที่รุ่นไฮบริด 1.8 ลิตร ให้กำลังรวมทั้งระบบสูงสุด 122 แรงม้า มีให้เลือกเฉพาะรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ พร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT

Toyota C-HR 2017
 

Toyota C-HR 2017

Toyota C-HR 2017

Toyota C-HR 2017

Toyota C-HR 2017
 
ภาพจาก Toyota UK
ข้อมูล  auto.sanook.com


ติดตามข่าวสารยานยนต์ก่อนใครผ่านทาง Facebook


งดเว้นค่าทางด่วนของขวัญปีใหม่ 7 วัน เริ่ม 29 ธันวาคม – 4 มกราคม 2560


    นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ว่า ที่ประชุมเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอการอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 เป็นของขวัญปีใหม่
โดยกรมทางหลวง จะมีการยกเว้นเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือเส้นทางมอเตอร์เวย์ เริ่มตั้งแต่เวลา 24.00 น. วันที่ 29 ธ.ค. 2559 จนถึงเวลา 24.00 น. วันที่ 4 ม.ค. 2560 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทางกลับภูมิลำเนา และลดการจราจรที่ติดขัดในช่วงที่มีการเดินทางจำนวนมากด้วย
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมเห็นชอบแผนปฏิบัติงานด้านคมนาคมขนส่งปี 2560 จำนวน 36 โครงการ วงเงินลงทุน 895,757.55 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีการเบิกจ่ายงบประมาณได้มากกว่า 140,000 ล้านบาท นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวจะสามารถหนุนให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในด้านของการก่อสร้างประมาณร้อยละ 1 ซึ่งไม่รวมกับการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์และการพัฒนาพื้นที่บริเวณรอบ 2 ข้างทาง ทั้งนี้ หากนำ 2 ส่วนรวมกันแล้ว คาดว่าจะส่งผลให้จีดีพีขยายตัวได้มากกว่า ร้อยละ 1

ติดตามข่าวสารยานยนต์ก่อนใครผ่านทาง Facebook


เทคนิคการขับรถลดอุบัติเหตุ (Defensive Driving Technique)



 ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เทคนิคการขับรถลดอุบัติเหตุ
            เกร็ดจากการอบรมเรื่อง เทคนิคการขับรถลดอุบัติเหตุ” บรรยายโดย คุณพีระพงษ์ กลั่นกรอง ผู้มีประสบการณ์ทั้งในการสอนและในสนามแข่งจาก Turning Point Consultant Co., Ltd.
1.      กฎความปลอดภัย
§       ก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์
-          คาดเข็มขัดนิรภัยและปรับเบาะนั่ง
-          ปรับมุมกระจกส่องหลังทั้ง บาน
-          เลื่อนคันเกียร์มาที่ตำแหน่ง (รถเกียร์อัตโนมัติหรือเกียร์ว่างสำหรับรถเกียร์ธรรมดา
§       ขณะสตาร์ทเครื่องยนต์ให้เหยียบคลัซ (รถเกียร์ธรรมดาหรือเบรค (รถเกียร์อัตโนมัติ)
§       อย่ายืนสตาร์ทเครื่องยนต์รถ
§       กรณีขับรถถอยหลัง ให้ขับช้าๆ เท่าที่จะทำได้
§       เหยียบเบรคทดสอบในระยะ 10 เมตรแรกที่เคลื่อนรถออก
§       ดึงเบรคมือทุกครั้งที่จอดรถ (รวมทั้งจอดรอสัญญาณไฟ)
§       หมุนพวงมาลัยให้ล้อชนขอบถนน เมื่อจอดรถบนทางลาดชัน
§       การเปลี่ยนยางรถให้หาวัสดุมารองหนุนล้อรถ เพื่อกันรถเคลื่อนขณะขึ้นแม่แรงยกรถ
§       อย่าจอดรถบนเชิงสะพาน ทางโค้ง หรือช่องขวาสุด เมื่อรถเสีย
2.      ท่านั่งขับรถ (จะบอกขีดความสามารถในการควบคุมรถ)
§       การปรับระยะห่างเบาะรองนั่ง สำหรับรถเกียร์ธรรมดา ให้เท้าเหยียบแป้นคลัชจนสุด ค้างไว้ โดยไม่เขย่ง แล้วเลื่อนเบาะเข้ามาให้เข่างอเล็กน้อย และรถเกียร์อัตโนมัติให้เหยียบคันเร่งจนสุด โดยไม่เขย่งแล้วเลื่อนเบาะเข้ามาเหมือนกับรถเกียร์ธรรมดา
§       ต้องนั่งหลังพิงพนักเบาะให้มั่นคง เวลาโดยชนจะลดแรงที่กระทำต่อกล้ามเนื้อหลัง
§       ปรับระดับคอพวงมาลัยให้เห็นมาตรวัดและไพเตือนบนหน้าปัดและวงพวงมาลัยต้องสูงพ้นหน้าตัก/หน้าขาของผู้ขับรถ
§       มือจับพวงมาลัยส่วนบนสุดและงอแขนเล็กน้อย จะช่วยให้มีระยะหมุนพวงมาลัยได้ดีกว่าการเหยียดแขนตรง
§       เวลาขับรถอย่านั่งหุบเข่า ให้เข่าซ้ายยันกับคอนโซลกลางรถ เพื่อให้เกิดความมั่นคงเวลาขับรถ
§       การหมุนพวงมาลัย ต้องให้น้ำหนักเท่ากันทั้งมือขวาและซ้าย จะทำให้หมุนพวงมาลัยไม่กระตุก
§       ในการเหยียบเบรคหรือคลัซ ให้ส้นเท้าลอยจากพื้นรถ (ถ้าส้นเท้าแตะพื้นรถ แรงจะลงที่พื้นรถมากกว่าไปที่คันเบรค เป็นสาเหตุให้เบรครถไม่หยุด โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุวิกฤติ)
3.      การวางแผนขับรถ (Driving planจะช่วยลดอุบัติเหตุลงได้ ผู้ขับขี่จะต้อง
§       มองรถที่อยู่ข้างหน้าไปอีก คัน ในการขับตามกันบนถนน (ที่รถวิ่งด้วยความเร็วสูงถ้าคันหน้าแตะเบรค ผู้ขับขี่ก็จะมีเวลาประมาณ วินาทีในการตอบสนองได้ทัน
§       ขณะขับรถเข้าโค้ง ตาต้องมองไปที่ทางโค้ง ซึ่งตาจะประเมินความโค้งและมือจะมีความสัมพันธ์กับตาทำให้ควบคุมรถเข้าโค้งได้ดีขึ้น
§       การขับรถเข้าโค้ง ให้ชะลอความเร็ว หรือแตะเบรคก่อนเข้าโค้ง (Entranceแล้วถอนเบรค พร้อมกับเร่งคันเร่งเมื่อถึงกลางโค้ง (Apex) และคืนพวงมาลัยเมื่อสุดโค้ง (Exitดูภาพประกอบ
§       การเปลี่ยนเกียร์
-          เกียร์ธรรมดา เปลี่ยนที่ความเร็วรอบระหว่าง 3,000-4,000 รอบต่อนาที แต่เมื่อจะ  แซงให้เปลี่ยนเป็นเกียร์ต่ำก่อน
-    เกียร์อัตโนมัติ ให้ใช้ Kick Down ในการแซง
4.      เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย (Driving Tip)
§       การหยุดรถ ควรหยุดห่างจากท้ายรถคันข้างหน้าในระยะที่สามารถมองเห็นล้อรถคันข้างหน้าได้
§       การเปลี่ยนช่องทาง การเลี้ยวหรือแซง ควรให้สัญญาณไฟกระพริบอย่างน้อย ครั้ง ก่อนหมุนพวงมาลัยและควรระมัดระวังรถจักรยานยนต์ที่อาจแซงขึ้นมา
§       การเว้นระยะห่างในขณะขับรถ ควรเว้นระยะห่างประมาณ 2-4 วินาที โดยสังเกตระยะทางประมาณหนึ่งช่วงเสาไฟฟ้า
§       การจอดรถ ควรถอยเข้าที่จอดรถ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนกันขณะขับออกจากที่จอดและง่ายต่อการบังคับรถ

การแก้ปัญหาฉุกเฉิน

1.      กรณีหม้อน้ำรั่ว ให้หยุดรถแล้วดับเครื่องยนต์ จากนั้นสังเกตรอยรั่วของหม้อน้ำ ซึ่งจะมีน้ำพุ่งออกมา ต้องอยู่ห่างๆ และห้ามเปิดฝาหม้อน้ำโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้น้ำร้อนพุ่งออกมาลวกได้ ควรปล่อยให้หม้อน้ำเย็นลง
2.      กรณียางระเบิด จะมีเสียงดังจากการระเบิดของยาง พยายามรวบรวมสติไว้ อย่าหักพวงมาลัยทันทีทันใด ค่อยๆ ผ่อนความเร็วลง พวงมาลัยรถจะค่อยๆ หนักขึ้น รถจะเอียงไปทางด้านที่ล้อระเบิด บังคับรถให้วิ่งตรงทาง ค่อยๆ เหยียบเบรคที่ละน้อย นำรถเข้าชิดขอบทางด้านซ้ายแล้วเปลี่ยนยางอะไหล่
3.      เบรคแตก เมื่อเหยียบเบรคจะรู้สึกว่าจมหายลงไปไม่มีแรงต้าน ห้ามล้อไม่ได้ ให้บังคับพวงมาลัยให้รถวิ่งไปในทางที่ปลอดภัย พร้อมกับใช้นิ้วหัวแม่มือซ้ายกดปุ่มล็อคคันเบรคมือไว้ แล้วค่อยๆ ดึงคันเบรคมือขึ้นและลงสลับกัน จนกระทั่งชะลอความเร็วและหยุดรถได้สนิท ข้อควรระวังก็คือ อย่าดึงเบรคมือขึ้นอย่างแรงในทันทีทันใด
4.      รถตกน้ำ อย่าตกใจจนไม่ได้สติ ปลดล็อคเข็มขัดนิรภัยออก (การคาดเข็มขัดนิรภัย ในขณะขับขี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุด แม้ในกรณีนี้ อย่าเข้าใจผิดว่าเมื่อคาดแล้วจะทำให้ปลดล็อคไม่ทัน เพราะเมื่อรถกระแทกจะทำให้ตัวท่านไม่กระเด็น ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บ และไม่หมดสติ ซึ่งอาจจะทำให้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ปล่อยให้ตัวรถบริเวณติดตั้งเครื่องยนต์จมน้ำก่อน ถ้าสามารถเปิดหน้าต่างหรือประตูรถออกได้ในขณะที่ตัวรถยังไม่จมน้ำหมดทั้งคันให้รีบทำ
5.      กระจกหน้าแตก รวบรวมสติ พยายามจำข้างหน้ารถไว้ว่ามีอะไรบ้าง เพื่อบังคับรถไม่ให้ชน เปิดไฟเลี้ยวซ้ายเข้าจอดไหล่ทางด้านซ้ายมือ ป้องกันรถคันอื่นชนและดึงเบรคมือไว้ หากมีผ้าเทปอยู่ในรถให้นำมาปิดประจกไว้ แล้วเคาะกระจกออก ถ้ามีแว่นตาให้ใส่ไว้เพื่อกันฝุ่นเข้าตา

โดย น..กิจจา  เรืองไทย

ที่ปรึกษาอาวุโส ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม


ขับอย่างมีสติ  ทุกชีวิตจะปลอดภัย




ติดตามข่าวสารยานยนต์ก่อนใครผ่านทาง Facebook


ขนส่งเตือน! ติดสติกเกอร์ผีบนกระจกหลังมีความผิด



ภาพหลอน

ขนส่งเตือน ติดสติกเกอร์ผีบนกระจกหลัง มีความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ ปรับไม่เกิน 2,000 บาท
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึง กรณีสังคมออนไลน์มีการแชร์ภาพสติ๊กเกอร์ ติดรถชวนสยองขวัญ โดยนำไปติดที่กระจกหลังหรือกันชน เมื่อกระทบแสงไฟจะเห็นเป็นภาพน่ากลัวคล้ายผีโผล่ขึ้นมาหลอกหลอนตอนขับรถนั้น อาจก่อให้เกิดความสับสนแก่ผู้ใช้ทางรายอื่นขณะขับรถทำให้เสียสมาธิ สร้างและบดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ การตกแต่งในลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 12 ฐานเพิ่มเติมสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจของผู้ใช้รถใช้ถนนอื่น มีโทษเปรียบเทียบปรับไม่เกิน 2,000 บาท ดังนั้น จึงไม่ควรติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งตามแฟชั่นที่ทำให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิ หรือตกใจ ขณะขับรถส่งผลต่อประสิทธิภาพในการควบคุมพวงมาลัยรถทำให้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน หรือขั้นร้ายแรงได้ โดยเฉพาะการติดอุปกรณ์ส่วนควบขนาดใหญ่ที่บดบังทัศวิสัยในการขับขี่ หรือการตกแต่งอุปกรณ์ยื่นออกมานอกตัวรถและมีความเสี่ยงที่อุปกรณ์ตกแต่งดังกล่าวจะหลุดหล่นออกจากตัวรถในขณะขับขี่บนท้องถนน อาจสร้างความเสียหายให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่นและอาจเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุได้ 
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ยังเตือนผู้ที่นิยมการแก้ไขดัดแปลงตัวรถอื่นที่ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้ เช่น การติดตั้งโครงหลังคาหรือโครงเหล็กด้านข้างรถ ฝาปิดด้านท้ายติดตั้งอุปกรณ์ทุ่นแรงยกสิ่งของ (Tail Lift) การเปลี่ยนเครื่องยนต์ หรือการเปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิง รวมถึงการแก้ไขดัดแปลงตัวถังรถ ระบบรองรับน้ำหนัก เสริมแหนบ ระบบกันสะเทือน ระบบบังคับเลี้ยว หรือระบบขับเคลื่อน เจ้าของรถต้องนำรถเข้ารับการตรวจสภาพพร้อมกับดำเนินการแจ้งแก้ไขลักษณะรถในเอกสารคู่มือจดทะเบียนรถ เพื่อขออนุญาตจากนายทะเบียนก่อนนำรถไปใช้งาน ทั้งนี้เพื่อการตรวจสอบความปลอดภัย หากพบการแก้ไขดัดแปลงโดยไม่มีหลักฐานการได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก เจ้าของรถจะมีความผิดตามกฎหมาย โดยกรณีเป็นรถยนต์จะผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 14 ฐานแก้ไขดัดแปลงสภาพรถ ปรับไม่เกิน 2,000 บาท ส่วนกรณีเป็นรถตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มีความผิดตามมาตรา 78 ฐานแก้ไขเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงสภาพเครื่องอุปกรณ์หรือส่วนควบของรถให้ผิดแผกแตกต่างในสาระสำคัญที่กำหนดในกฎกระทรวง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ปรับไม่เกิน 5,000 บาท จึงขอความร่วมมือเจ้าของรถปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อความปลอดภัยและไม่เกิดปัญหาในการใช้งานบนท้องถนนอีกต่อไป อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด
ขอบคุณภาพ ข้อมูล กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News

ติดตามข่าวสารยานยนต์ก่อนใครผ่านทาง Facebook

www.facebook.com/kcycar

กรมทางหลวงชนบท ปิดสะพานภูมิพล ซ่อมแซมรอยต่อสะพาน 21.00-06.00 น. วันที่ 3 - 4 ธ.ค.นี้

กรมทางหลวงชนบท ปิดสะพานภูมิพล ซ่อมแซมรอยต่อสะพาน 21.00-06.00 น. วันที่ 3 - 4 ธ.ค.นี้

กรมทางหลวงชนบท ปิดสะพานภูมิพล ซ่อมแซมรอยต่อสะพาน 21.00-06.00 น. วันที่ 3 - 4 ธ.ค.นี้
กรมทางหลวงชนบท จะดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมรอยต่อสะพาน (Expansion Joint) สะพานภูมิพล 1 และสะพานภูมิพล 2 บริเวณทางลงฝั่งถนนสุขสวัสดิ์ ตั้งแต่เวลา 21.00 น. ของวันที่ 3 ธันวาคม ถึง เวลา 06.00 น. ของวันที่ 4 ธันวาคม 2559 จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนโปรดหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางการจราจรในวันและเวลาดังกล่าว และขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้

เรียบเรียง : Kcycar.com
ที่มา : fm91bkk.com