"แอร์รถยนต์เหม็นอับ" แก้ได้ง่ายๆสบายกว่าที่คิด!!ไม่ต้องลำบากง้อช่างแถม "ประหยัดเงิน -เวลา"

หามาตั้งนาน!!หมดปัญหา "แอร์รถยนต์เหม็นอับ" แก้ได้ง่ายๆสบายกว่าที่คิด!!ไม่ต้องลำบากง้อช่างแถม "ประหยัดเงิน -เวลา" ด้วย คอนเฟิร์มได้ผลชัวร์ๆ!Googlhttps://line.me/R/ti/p/%40sbg7208oLine


เชื่อว่าคนรักรถคงจะต้องเคยจะปัญหา "แอร์รถยนต์เหม็นอัล" กันมาบ้างใช่ไหม? เพราะบางทีเราอาจจะมองข้ามและดูแลความสะอาดไม่ดีเท่าที่ควรจนทำให้มีปัญหาแบบนี้ตามมา เชื่อว่าถ้ารถใครที่เกิดปัญหานี้คงจะสร้างความหงุดหงิดรำคาญไม่น้อย ทั้งขับไปคนเดียวหรือเพื่อนร่วมทางที่ไปด้วยกัน 


แต่วันนี้เรามีทางออกดีๆมานำเสนอให้กับคนรักรถที่กำลังเจอปัญหานี้อยู่ ซึ่งวิธีการก็ทำได้ง่ายๆไม่ยุ่งยากเสียเวลา แถมประหยัดทั้งเงินทั้งเวลาไม่ต้องขับออกไปให้หาช่างด้วย รับรองได้เลยว่าได้ผลชัวร์ๆ   
โดยทั่วไปแล้วสาเหตุที่ทำให้แอร์เหม็นอับ

1. กรองแอร์สกปรก มีฝุ่นหรือสิ่งอุดตัน 


2. มีน้ำหรือความชื้นขังอยู่ในคอยล์เย็น ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆจะทำให้เกิดเชื้อรา ซึ่งเป็นที่มาของกลิ่นเหม็นอับเหม็นเปรี้ยวได้


3. การอุดตันของช่องระบายอากาศ พอรวมตัวกับน้ำที่ท่วมขังหรือน้ำการล้างรถ ทำให้เกิดการหมักหมม เกิดความชื้นและกลิ่นเหม็นเข้ามาภายในห้องโดยสารได้ 




และสำหรับวิธีการแก้ไขปัญหาแอร์รถยนต์เหม็นอับ ทำได้แบบง่ายๆ 

1. ใช้สเปรย์ปรับอากาศฉีดพ่นภายในรถ


2. ให้กดสวิทช์ปุ่ม A/C เพื่อปิดการทำงานของระบบแอร์ จากนั้นเปิดพัดลมโดยเร่งไปที่เบอร์แรงสุด ก่อนที่จะถึงที่หมาย หรือก่อนจอดรถประมาณ 5 นาที เพื่อไล่ความชื้นออก และช่วยลดการหมักหมมในระบบแอร์


3. ใส่ดอกไม้ หรือสมุนไพรไว้ในรถ เช่น ดอกมะลิ ใบเตย ฯลฯ เพราะของพวกนี้มันจะมีน้ำมันหอมระเหยตามธรรมชาติ สามารถใช้กลบกลิ่นเหม็นอับต่างๆ ได้

4. นำรถไปจอดกลางแดด จากนั้นเปิดกระจก เปิดประตูทิ้งไว้ทุกบาน เพื่อระบายความชื้น และกลิ่นเหม็นอับต่างๆ


 5. ทำความสะอาดพรมรถ บางครั้งกลิ่นอับที่เกิดขึ้นอาจไม่ได้มาจากแอร์เสมอไป แต่อาจเกิดจากการหมักหมม ของพรมในรถ ซึ่งทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับโดยที่เราไม่รู้ตัวได้ วิธีแก้ปัญหาคือเอาพรมรถไปล้างและตากแดดให้สะอาดเพื่อกำจัดกลิ่นอับที่เกิดขึ้น และจะให้ดีเอารถไปตากแดดสัก 3-4 ชั่วโมง เปิดประตูรถทั้ง 4 บาน และเปิดพัดลมแอร์ให้สุด เพื่อไล่ความชื้น ออกจากตู้แอร์ 


6. ใส่ถ่านหุงข้าวไว้ในรถ เพื่อช่วยดูดซับกลิ่นต่างๆ


7. น้ำส้มสายชูช่วยได้ ถ้ารถยังมีกลิ่นอับติดรถอยู่สามารถแก้ปัญหาโดยใช้น้ำส้มสายชูช่วยดับกลิ่นได้ แค่เทน้ำส้มสายชูใส่แก้วแล้วเอาไปตั้งไว้ในรถประมาณ 1-2 ชั่วโมง กลิ่นของน้ำส้มสายชูจะช่วยดับกลิ่นอับในรถได้เป็นอย่างดี




แต่ทั้งนี้ การที่แอร์รถยนตืเหม็นอับบางทีอาจจะมาจากพฤติกรรมของผู้ใช้รถยนต์ด้วย ว่าดูแลเอาใจใส่รถยนต์ดีพอหรือยัง อย่างเช่นทานอาหารในรถ การสะสมของฝุ่นทั้งหลาย แม้แต่น้ำหอมรถยนต์ที่สะสมนานๆ ทำให้เกิดการหมักหมมเกิดขึ้น เพราะอย่างนั้นปัญหาแอร์รถยนต์มีกลิ่นอับได้




ข้อมูลจาก : kaijeaw
เรียบเรียง สุภัทชา เผือกกันสี 
ทีมงาน ที่สุดดอทคอม
www.kcycar.com

วิธีดูแล เบาะผ้า เบาะกำมะหยี่ ให้ปราศจากเชื้อโรค

       

        นอกจากจะต้อง ดูแลในเรื่องของสมรรถนะต่างๆ ของรถยนต์ ให้พร้อมใช้งานในทุกสถานการณ์แล้ว ภายในห้องโดยสารเองก็มีส่วนที่ต้องดูแลรักษาด้วยเหมือนกัน เพราะไม่อย่างนั้นมันอาจสกปรก จนกลายเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคได้ อย่างเช่น เบาะผ้า เบาะกำมะหยี่
     แม้ทุกวันนี้ ค่ายรถยนต์ต่างๆ จะมีออฟชั่นแถมเบาะหนังออกมาให้เลือกมากมาย แต่ก็มีบางคนยังเลือกใช้งานเบาะผ้า เบาะกำมะหยี่อยู่ เนื่องจากให้สัมผัสนุ่มยืดหยุ่น นั่งสบายกว่าเบาะหนัง และเวลาจอดตากแดดเบาะไม่ร้อนแสบก้นแสบขาเท่าเบาะหนัง ฯลฯ
     แต่การใช้เบาะผ้า เบาะกำมะหยี่ ต้องหมั่นดูแล คอยทำความสะอาดบ่อยๆ เพราะเบาะประเภทนี้สามารถกักเก็บฝุ่น ละอองต่างๆ รวมไปถึงซึมซับน้ำได้ง่าย ทำให้ห้องโดยสารเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ อีกทั้งอาจทำให้เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจอีกด้วย

     และถ้าไม่อยากให้มันสกปรก มีกลิ่นอับ กลิ่นไม่พึงประสงค์ มาดูวิธีทำความสะอาดง่ายๆ แค่ไม่กี่ขั้นตอน ดังนี้
     1. ใช้มือ หรือไม้ ตีไปที่เบาะผ้า เบาะกำมะหยี่เบาๆ เพื่อให้ฝุ่นละอองที่ฝังอยู่ในเบาะลอยขึ้นมาด้านบน จากนั้นจึงใช้เครื่องดูดฝุ่น ดูดสิ่งสกปรกเหล่านั้น
     2. ใช้ผ้า หรือแปรงที่ใช้สำหรับแปลงเบาะ มาแปลงมาลูบบนเบาะให้ทั่ว
     3. ใช้มือ หรือไม้ ตีไปที่เบาะผ้า เบาะกำมะหยี่ แล้วดูดฝุ่นอีกครั้ง เพื่อกำจัดฝุ่นที่ตกค้างออกไปให้หมด
     4. สำหรับรอยเปื้อนคราบต่างๆ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำเปล่าหมาดๆ มาลูบที่เบาะ (ออกแรงกดพอประมาณ) เสร็จแล้วใช้น้ำยาซักเบาะ หรือถ้าไม่มีให้ใช้น้ำยาซักผ้าแทน ขัดถูให้สะอาด และถ้ามีสเปรย์กำจัดเชื้อโรค ก็สามารถฉีดพ่นลงไปได้ด้วยเช่นกัน
     หากทำครบทุกขั้นตอน และคอยดูแลหมั่นรักษาความสะอาดอยู่เสมอ รับรองได้เลยว่า เศษฝุ่นละออง คราบเปื้อนต่างๆ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ จะไม่มีอยู่บนรถของคุณแน่นอน
เนื้อหา Silkspan

เรียบเรียง : Kcycar.com