วิธีไหว้แม่ย่านางรถ ที่ถูกวิธี เสริมบารมีคนขับ คนมีรถควรรู้


ใครมีรถควรอ่านเลย การไหว้แม่ย่านางรถและคำถวายของไหว้แม่ย่านางรถ ประเภทใช้ผลไม้ วัดเนินทอง (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล)

สิ่งที่ต้องจัดเตรียมดังนี้

1.ผลไม้ 5 อย่าง โดยเอากล้วยน้ำว้าสุก 2 หวี และผลไม้อย่างอื่นๆอีก 4 อย่าง
2.ข้าว 1 ถ้วย
3. น้ำ 1. แก้ว
4. หมาก ,พูล,ยาเส้นสีฟัน 3 คำ
5. ยาสูบ 3 มวน

วันเวลาที่ควรไหว้ ตามธรรมเนียมแต่โบราณ คือ ช่วงสงกรานต์ หรือแล้วแต่จะประยุกต์เอาเดือนไหนก็ได้ หากเป็นรถใหญ่ รถทัวร์ การงานการเงินดี อาจจะต้องไหว้ปีละ 2 ครั้ง รถยนต์ก็ปกติปีละครั้ง เวลาเช้าจัดโต๊ะที่หน้ารถ สตาร์ทเครื่องยนต์ บีบแตร 3 ที จุดธูป 9 ดอกบอกถวายเฉพาะแม่ย่านางรถอย่างเดียวเท่านั้น

คำถวายของไหว้แม่ย่านางรถ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ…ว่า 3 จบ
สุทินนัง วัตถุทานัง อาสะวะ ขะยาวะหัง โหตุ
ทุติยัมปิ สุทินนัง วัตถุทานัง อาสะวะ ขะยาวะหัง โหตุ
ตะติยัม สุทินนัง วัตถุทานัง อาสะวะ ขะยาวะหัง โหตุ….

ลูกขอถวายสิ่งของเหล่านี้แก่แม่ย่านางรถ ขอท่านจงรับซึ่งสิ่งของเหล่านี้เพื่อประโยชน์และความสุขแก่ลูกทั้งหลายเทอญ สาธุ…ตอนนี้เราก็พูดในสิ่งที่ดีๆมีโชค ร่ำรวย ทำมาค้าขายให้เงินไหลกอง ทองไหลมา จงเกิดมีแก่เรา และรอประมาณ 20 นาที แล้วจุดยาสูบ 3 มวนให้เจ้าที่ด้วย และรอประมาณ 3 นาที แล้วมาว่าคำลา

คำลาของไหว้แม่ย่านางรถ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ….ว่า 3 จบ
พุทธังลา ธัมมังลา สังฆังลา ข้าพเจ้าขอลาสิ่งของเหล่านี้เพื่อให้เป็นทานต่อไป เป็นยารักษาโรค อย่าให้เกิดโทษเลยนะ เสสัง มังคะลา ยาจามะ

ติดตามข่าวสารยานยนต์ก่อนใครผ่านทาง Facebook


ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่’ไมเนอร์เชนจ์ ราคาเริ่มต้น 5.5 แสนบาท

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในงานเปิดตัวรถยนต์‘ฮอนด้า ซิตี้’ใหม่ ว่าจากการเปิดตัวยนตรกรรมรุ่นใหม่หลายรุ่นในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้ฮอนด้าครองอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และในปี 2560 นี้ เริ่มต้นด้วยการปรับโฉมฮอนด้า ซิตี้ ซับคอมแพคท์ยอดนิยมที่มียอดขายสูงที่สุดในเซกเมนต์
ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิดหลักคือ “Advanced Energetic Smart Star” ซึ่งเป็นการยกระดับฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ให้เหนือกว่ารถยนต์รุ่นอื่นในระดับเดียวกัน ด้วยการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกและภายในที่โฉบเฉี่ยวในสไตล์สปอร์ตยิ่งขึ้น การออกแบบภายนอก‘Advanced Energetic Design’เพื่อสื่อถึงการนำเทคโนโลยีอันทันสมัยมาผสมผสานกับการออกแบบตัวถังที่กว้างและต่ำในสไตล์สปอร์ต รวมถึงความโดดเด่นตามแบบฉบับยนตรกรรมซีดาน โดยได้รับการพัฒนารูปลักษณ์ภายนอกให้ดูหรูหรา และเพิ่มความสปอร์ตยิ่งขึ้น อาทิ
ระบบไฟหน้าแบบ LED นับเป็นครั้งแรกของยนตรกรรมซับคอมแพคท์ที่มีการติดตั้งไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ในทุกรุ่น นอกจากนี้ยังติดตั้งไฟหน้าแบบ LED (เฉพาะรุ่น SV และ SV+) และไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED (เฉพาะรุ่น SV และ SV+)โดยระบบไฟแบบ LED ประกอบไปด้วยแถวหลอด LED ที่เรียงตัวเป็นแนวยาว การสะท้อนแสงจากไฟ LED ด้วย Reflector ภายในโคมไฟทำให้ผู้ขับขี่มองเห็นเส้นทางได้อย่างชัดเจนทั้งขณะขับขี่ในเวลากลางคืน หรือขณะฝนตกหนักจนทำให้ทัศนวิสัยด้านหน้าไม่ชัดเจน ซึ่งจะทำงานโดยใช้พลังงานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มาพร้อมล้อลายใหม่ดีไซน์สปอร์ต ได้แก่ ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว (เฉพาะรุ่น V และ V+) และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว (เฉพาะรุ่น SV และ SV+) กระจังหน้าแบบโครเมียม พร้อมกันชนหน้า-หลัง ดีไซน์ใหม่สไตล์สปอร์ต
ภายในห้องโดยสารใหม่ ภายใต้แนวคิด “Rich & Sophisticated” เพื่อให้สัมผัสที่หรูหรา และความสปอร์ตที่มากขึ้น พร้อมเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น อาทิ ไฟส่องสว่างแบบ LED ได้แก่ ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า (เฉพาะรุ่น SV+) และไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารแบบ LED (เฉพาะรุ่น SV+) คอนโซลด้านหน้า ออกแบบโดยการผสมผสานวัสดุที่มีพื้นผิวต่างกันได้อย่างลงตัวระหว่างแผงหน้าปัดพื้นผิวสีดำ และแผงคอนโซลตรงกลางรูปตัว T ในโทนสีเมทัลลิกเข้ม ทำให้ดูโดดเด่นมากขึ้น ขณะที่การตกแต่งตามจุดต่างๆ ภายในห้องโดยสารให้ความรู้สึกที่หรูหราในสไตล์สปอร์ตมากยิ่งขึ้นด้วยโทนสีกันเมทัลลิก (Gun Metallic) สำหรับพื้นที่ส่วนบนของแผงหน้าปัดถูกออกแบบให้ดูแบนเรียบ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ยิ่งขึ้น
เพิ่มรายละเอียดในการตกแต่งบริเวณช่องแอร์ รอบบริเวณคันเกียร์ และรอบมาตรวัด ด้วยวงแหวนสีเงิน ทำให้ภายในห้องโดยสารมีความสวยงามโดดเด่นมากยิ่งขึ้น สำหรับมาตรวัดเรืองแสงแบบ 3 วง ได้รับการออกแบบใหม่ให้ดูมีมิติยิ่งขึ้น พร้อมไฟเรืองแสดงสีขาวขณะสตาร์ทรถ ให้ความรู้สึกที่หรูหราและทันสมัย เบาะนั่งสไตล์สปอร์ต ด้วยการเลือกใช้วัสดุผ้าที่มีคุณภาพ ให้สัมผัสที่สบาย และออกแบบในสไตล์สปอร์ตด้วยการเดินด้ายเย็บแบบ 2 แถว
พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่ครบครัน อาทิ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส (เฉพาะรุ่น V+, SV และ SV+) เบาะที่นั่งด้านหลังปรับพับได้ 60:40 (เฉพาะรุ่น SV+) ลำโพง 8 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น SV และ SV+) ติดตั้งตามจุดต่างๆ ในห้องโดยสาร อาทิ บริเวณแผงประตูด้านหน้าของเบาะหน้า และด้านหลังของเบาะหลัง ช่องจ่ายไฟสำรองบริเวณด้านหน้า 1 ตำแหน่ง (ทุกรุ่น) และเพิ่มช่องจ่ายไฟสำรองสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง 2 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น SV และ SV+)
ขุมพลังเครื่องยนต์ SOHC i-VTEC 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน-เมตร ที่ 4,700 รอบต่อนาที พร้อมระบบส่งกำลังที่มีทั้งแบบอัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หรือเกียร์ CVT ให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ 17.9 กิโลเมตรต่อลิตร และเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ 18.2 กิโลเมตรต่อลิตร ทั้งยังรองรับการใช้พลังงานทางเลือก E85
ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มาพร้อมอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกล้ำสมัยครบครัน เพื่อตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ อาทิ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส (เฉพาะรุ่น V+, SV และ SV+) รองรับการเชื่อมต่อทรศัพท์แบบไร้สายทั้งในระบบปฏิบัติการ Android และ iOS และยังรองรับการเชื่อมต่อภาพและเสียงผ่าน HDMI
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส (เฉพาะรุ่น V+, SV และ SV+) มาตรวัดเรืองแสงสีขาวพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID (เฉพาะรุ่น V, V+, SV และ SV+) พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด (เฉพาะรุ่น SV และ SV+) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น SV และ SV+) สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียง พร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย (เฉพาะรุ่น V+, SV และ SV+) ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ (เฉพาะรุ่น V, V+, SV และ SV+) ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (เฉพาะรุ่น V, V+, SV และ SV+)
พัฒนาระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Active Safety) และเชิงปกป้องเมื่อเกิดเหตุ (Passive Safety) อย่างต่อเนื่อง โดยฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ครบครันด้วยมาตรฐานความปลอดภัยที่เหนือระดับ อาทิ ถุงลม 6 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น SV+) กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ(เฉพาะรุ่น V+, SV และ SV+) ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรกควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) ระบบควบคุมการทรงตัว (VSA) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) ระบบส่งสัญญาณเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน (ESS) ฯลฯ
มีทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก), สีดำคริสตัล (มุก), สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก), สีขาวทาฟเฟต้า, สีขาวออร์คิด (มุก) และสีใหม่ สีน้ำเงินคอสมิก (เมทัลลิก) พร้อมสีภายในห้องโดยสารสีดำ
มีให้เลือก 6 รุ่นย่อย ราคา
รุ่น SV+ CVT ราคา 751,000 บาท
รุ่น SV CVT ราคา 736,000 บาท
รุ่น V+ CVT ราคา 689,000 บาท
รุ่น V CVT ราคา 649,000 บาท
รุ่น S CVT ราคา 589,000 บาท
รุ่น S MT ราคา 550,000 บาท
สีขาวออร์คิด (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท
 ที่มา : www.khaosod.co.th

ติดตามข่าวสารยานยนต์ก่อนใครผ่านทาง Facebook


สิ้นสุดการรอคอย VERA รถไฟฟ้าโดยคนไทยมาแน่นอน 13 ม.ค. นี้

ขอแสดงความยินดีกับคนไทยด้วยจริงๆ เพราะเรากำลังจะได้ใช้ รถยนต์ไฟฟ้า กันในเร็วๆนี้อย่างแน่นนอน เพราะ VERA รถยนต์ไฟฟ้าที่เป็น แบรนด์ของคนไทย จะเปิดตัวในวันที่ 13 มกราคม 2560 นี้
1117x600
พร้อมเปิดตัวแล้ววันที่ 13 มกราคม 2560 นี้ สำรับรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV Car แบรนด์คนไทย VERA ที่ผลิตโดยบริษัท Vera automotive ที่เคาะราคาเปิดตัวแล้วที่ 945,000 บาท

สำหรับราคาที่ตั้งไว้หลายๆคนอาจจะเห็นว่าสูงไป แต่ทางคุณ Wanchai Meesiri ซึ่งเป็น Co-founder ของบริษัท กล่าวถึงตรงจุดนี้ว่าต้นทุนของยานยนต์ไฟฟ้าที่สูงสุดคือ แบตเตอรี่ชนิด Lithium ยังคงมีราคาสูง V1 ใช้แบตเตอรี่ขนาด 22kWh ต้นทุนอยู่ที่แบตเตอรี่ประมาณ 50% โดยในส่วนนี้นโยบายของรัฐยังไม่พร้อมที่จะสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคล จนกว่าถึง ปี 2564 และนโยบายของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์จะไปเริ่มใน ปี 2566 หรืออีกประมาณ 5-7 ปี ข้างหน้า หมายถึงว่าช่วงนี้จะยังไม่มีการสนับสนุนใดๆจากภาครัฐ แต่ถ้าทางรัฐมีส่วนในการเข้ามาผลักดัน ก็อาจจะมีส่วนในเรื่องของราคาที่จะต่ำกว่านี้ได้อีก
15896398_1194350857279666_3168501084647772867_o
ซึ่งภายใต้นโยบายหลักของชาติ VERA มีหลักเป้าหมายแค่การวิจัย วิจัย พัฒนา และผลิตขาย ในจำนวนจำกัด สเกล หลัก 100 ใน 1,000,000 คัน ของกำลังการผลิตยานยนต์ของประเทศ จึงไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ ต่อแผนการผลิตรถยนต์หลักของชาติ
15843998_1194350843946334_3491280726366400039_o-1
สำหรับตอนนี้ VERA ยังจะมีการโฟกัสไปยังเฉพาะกลุ่มอยู่ โดยจะเน้นคนกลุ่มที่ รักษ์สิ่งแวดล้อม รักเทคโนโลยีสมัยใหม่ กลุ่มการศึกษาและวิจัยพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า โดยส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือคือกลุ่มที่รัก ยานยนต์ไฟฟ้า และคาดว่าหาก VERA ได้รับผลตอบรับที่ดี และเป็นทีต้องการสำหรับคนทั่วไปแล้ว ตอนนั้นน่าจะเป็นนิมิตรหมายที่ดีของ ยานยนต์ไฟฟ้า สัญชาติไทย แบรนด์นี้อย่างแน่นอน
ojeav2uk94nfm9fcq7x-oojeatjegihfktn1kv8i-o
ข้อมูลเบื้องต้นของตัวรถ
– ค่าไฟ ตกกิโลเมตรละ 0.5 – 0.7  บาท (คิดที่ค่าไฟ 4 บาทต่อกิโลวัตต์)
– ดิสก์เบรค ABS
– ความเร็วสูงสุด 100 กม.ต่อ ชั่วโมง
– วิ่งได้ไกล 180 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (ที่ความเร็วต่อเนื่อง 70 กม.ต่อชั่วโมง)
– ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
– ห้าประตู
ข้อมูลจาก  Wanchai Meesiri , Pantip,auto.mthai

ติดตามข่าวสารยานยนต์ก่อนใครผ่านทาง Facebook


รื้อแผนน้ำมันฯปั๊มจ่อเลิกอี20


กรมธุรกิจพลังงานทบทวนแผนน้ำมันฯ หลังผู้ค้าเมินขาย อี20 เหตุรัฐไม่ชัดเจนนโยบายเลิกแก๊สโซฮอล์ 91

นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง ปี 2558-2579 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะความชัดเจนในการส่งเสริมการใช้เอทานอลในภาคขนส่ง ซึ่งเดิมมีแผนยกเลิกจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 91 ในเดือน ม.ค. 2561 ดังนั้นจะต้องศึกษาและระบุให้ชัดเจนว่าจะยกเลิกแผนนี้หรือชะลอออกไปถึงระยะเวลาใด

"แผนยกเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 ควรจะต้องสรุปภายในเดือน ธ.ค. 2559 ที่ผ่านมา ว่าจะเดินตามแผนที่กำหนดภายในเดือน ม.ค. 2561 หรือไม่ เพราะต้องให้เวลาผู้ค้าน้ำมัน 1 ปี ในการ ปรับตัว แต่จากปัญหาเอทานอลตึงตัวทำให้ไม่สามารถจะประกาศได้ และอาจจะต้องมาดูว่าที่สุดแล้วนโยบายนี้จะต้องปรับหรือไม่ ขณะเดียวกันก็ต้องมองภาพรวมในเรื่องของการส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอล์ อี20 ด้วย" นายวิฑูรย์ กล่าว

 แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทน้ำมันต่างๆ ได้ลดการจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี20 โดยเฉพาะในสถานีบริการน้ำมันต่างจังหวัด โดยปัญหานี้ได้เริ่มเห็นสัญญาณชัดเจนตั้งแต่ช่วงปลายปี 2559 เป็นต้นมา เนื่องจากส่วน ต่างราคาแก๊สโซฮอล์ อี20 เทียบกับ แก๊สโซฮอล์ อี10 ยังไม่จูงใจมากพอ ประกอบกับปริมาณเอทานอลในช่วงปลายปีตึงตัวและมีราคาสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม เดิมกระทรวงพลังงานพยายามจะถ่างราคาให้สูงขึ้น แต่ปริมาณเอทานอลมีปัญหาไม่ชัดเจน รัฐจึงชะลอ ทำให้ผู้ค้าเองยังไม่มั่นใจต้องรอนโยบายรัฐก่อน

นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มโรงกลั่นน้ำมันยังรอนโยบายความชัดเจนของรัฐบาลว่าจะยกเลิกการจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ อี10 ชนิดใดชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ประชาชนหันไปใช้แก๊สโซฮอล์ อี20 มากขึ้นตามแผนที่จะส่งเสริมฯ ให้มีการใช้เอทานอล 11.3 ล้านลิตร/วันในปลายปี 2579 ซึ่งภาครัฐต้องหาแนวทางบริหารเอทานอลให้สมดุล

ที่มา : www.posttoday.com/biz/gov/474491


ติดตามข่าวสารยานยนต์ก่อนใครผ่านทาง Facebook



ม.44 โทษหนัก!! กระบะหลังห้ามโดยสาร

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ห้ามโดยสารกระบะหลัง

ได้มีการส่งข้อมูลแชร์กันอย่างแพร่หลายในสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะ “ไลน์” ว่า จะมีการใช้ ม.44 แก้ไข พ.ร.บ.จราจรทางบก เกี่ยวกับเมาไม่ขับ และการคาดเข็มขัดนิรภัย โดยมีอัตราโทษหนักและเข้มงวดมากขึ้น ข้อความดังนี้....

“ม.44 ออกมาแล้วครับ รถเก๋ง รถกระบะนั่งได้แค่ 4 คนเท่านั้น ผู้โดยสารก็ต้องรัดเข็มขัดทุกคน ตามกฎพ.ร.บ.จราจร ออกกฎหนัก 10 เท่า แจ้งให้ทราบ เมื่อมีเหตุรถตู้ขับรถข้ามเลนมาชนกระบะ isuzu ทำให้มีผู้เสียชีวิต 25 รายนั้น เส้น 314 บ้านบึงที่ผ่านมา มีกฎหมายออกมาดังนี้ ม.44 บังคับใช้ คนบ้านนอกคอกนาที่ใช้รถกระบะบรรทุกคน ต่อไปนี้กระบะหลังห้ามผู้โดยสารนะครับ ปรับหนักด้วย

 1. กรณีเมาแล้วขับปรับ 20,000-60,000 หรือทั้งจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา

2.กรณีเมาแล้วขับรถชนให้คนอื่นเสียหายปรับ 20,000-50,000 หรือทั้งจำและปรับ โทษจำนวน 6 เดือน

3.กรณีเมาแล้วขับทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตถึงแก่ความตาย ปรับ 60,000-200,000 ทั้งจำและปรับติดคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา

4.กรณีขับรถเก๋ง ต้องคาดเบลต์ทั้งคนขับและคนนั่งข้าง ส่วนด้านห้องผู้โดยสารฝั่งหลังถ้ามีคนนั่งต้องคาดด้วย รถเก๋งนั่งไม่เกิน 4 คนเท่านั้น ปรับ 20,000-60,000

5. กรณีขับรถกระบะ นั่งได้ไม่เกิน 4 ที่นั่งเท่านั้น หลังกระบะห้ามนั่งฝ่าฝืนปรับ 20,000-60,000 นี่คือสิ่งที่พี่น้องเราควรทราบนะ เริ่มพรุ่งนี้เป็นต้นไป จับจริง ปรับจริง ติดคุกจริง ไม่รอลงอาญา แจ้งให้ทราบนะครับ จับจริง ปรับจริง และติดคุกจริงครับ เส้นดีก็อาจจะรอด เก็บเงินค่าปรับไว้ไปกินหมูกระทะกันดีกว่า รถซิ่งแข่งบนถนนยึดรถ ติดคุกนะครับ”

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการชี้แจงจาก พล.ต.ต.จิระสันต์ แก้วแสงเอก ผบก.จร.ว่า ข้อมูลดังกล่าวมีการคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องการคาดเข็มขัดนิรภัย ทั้งนี้ ปัจจุบันกฎหมายบังคับใช้เฉพาะคนขับกับคนนั่งด้านหน้าเท่านั้น แต่กฎหมายที่กำลังแก้ไขนั้นจะกำหนดให้บังคับกับผู้โดยสารด้านหลังด้วย หรือต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกคน แต่ไม่ได้ห้ามว่ารถเก๋งจะนั่งได้เพียง 4 คน ตามที่ข้อมูลที่แชร์กัน ส่วนการเพิ่มโทษกรณีเมาแล้วขับนั้น จะมีการแก้ไขให้เหมาะสมขึ้น อย่างไรก็ตาม ในรายละเอียดนั้นยังต้องเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาอีก 3 วาระ ก่อนที่จะประกาศบังคับใช้ ส่วนสาเหตุที่มีการแก้ไขนั้น เนื่องจากรัฐบาลต้องการลดปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเทศกาล.

ที่มา : www.thairath.co.th
เรียบเรียง : Kcycar.com

ติดตามข่าวสารยานยนต์ก่อนใครผ่านทาง Facebook



ทำกันหรือยัง? ตรวจเช็ครถ หลังเที่ยวปีใหม่ ตามนี้เลย

ตรวจเช็ครถ หลังเที่ยวปีใหม่

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ตรวจเช็คสภาพรถยนต์

1. สภาพเครื่องยนต์ มีสิ่งที่ต้องเช็คดังต่อไปนี้ครับ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย คือสิ่งหลักๆ ที่ต้องเช็ค หากเปลี่ยนได้ก็ดีนะครับ
check

check2
2. ยางรถยนต์ หลายๆ คนมักมองข้าม แต่การเดินทางไกล จะทำให้ยางมีโอกาสเสื่อมสภาพ หรือโดนตะปู ตรวจเช็คและแก้ไขกันด้วยนะครับ
check3
3. ระบบไฟ สังเกตุจากหน้าปัดครับ หากมีสัญลักษณ์อะไรขึ้นมา ลองเปิดเทียบกับคู่มือ แล้วแก้ให้ตรงจุดกันไปเลย
check4
4. ระบบเบรค ลองเช็คดูว่า หนึบอยู่ไหม ระยะการเบรคดีเหมือนเดิมรึเปล่า หากมีเสียงอี๊ดๆ ก็เปลี่ยนผ้าเบรคได้เลย
check5
5. หม้อน้ำ ต้องดูว่าน้ำอยู่ในระดับปกติหรือไม่ หากพร่อง ต้องสำรวจสภาพหม้อน้ำ ท่อยาง เหล็กรัดท่อยาง ฝาหม้อน้ำ ว่าตรงไหนชำรุด แล้วแก้ทันทีครับ
check6
6. ระบบอากาศ เริ่มตรวจตั้งแต่ไส้กรองอากาศ ถอดมาทำความสะอาดให้เรียบร้อย รวมถึงการตรวจท่อยางดูดอากาศว่า มีรอยรั่วหรือชำรุดหรือไม่
เพียงเท่านี้ เจ้ารถคันเก่งคู่ใจ ที่พาเพื่อนๆ ไปเที่ยวในช่วงปีใหม่ ก็จะไม่งอแงแล้ว อย่าลืม ตรวจเช็ครถ ของท่านเป็นประจำนะครับ
ที่มา : www.thaicarlover.com

ติดตามข่าวสารยานยนต์ก่อนใครผ่านทาง Facebook


Toyota VIOS Minorchange ใหม่พร้อมเปิดตัว 23 มกราคม 2560 นี้

Toyota VIOS Minorchange 20172 12
Toyota VIOS Minorchange ใหม่พร้อมเปิดตัว 23 มกราคม 2560 นี้
โตโยต้าต้องออกมาเคลื่อนไหวบ้างหลังจากที่ฮอนด้าประกาศชัดเจนแล้วว่าจะเปิดตัว Honda City Minorchange 2017 โฉมใหม่ช่วงวันที่ 12 มกราคม 2017 อย่างเป็นทางการ และถึงเวลาที่วีออสเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการนั้นคือวันที่ 23 มกราคม 2560 
Toyota VIOS Minorchange 20172 9
แล้วโตโยต้าจะอยู่เฉยหรอ ! และมีความเป็นไปได้ว่าโตโยต้าจะปรับโฉม Toyota VIOS Minorchange 2017 เพื่อรับการมาของซิตี้ใหม่ช่วงปลายปี 2017 นี้และเบื้องต้นอาจมีการปรับในส่วนของ กระจังหน้า ไฟหน้า ไฟตัดหมอก และ กันชนหลัง ซึ่งรายละเอียดสามารถเปลี่ยนแปลงได้
เปิดตัวอย่างเป็นทางการ 23 มกราคม 2560
การเปลี่ยนแปลงที่น่าจะเกิดขึ้นในเวอร์ชั่นไทย
– กระจังหน้า ดีไซน์ใหม่
– ไฟหน้า ดีไซน์ใหม่
– ไฟตัดหมอก ดีไซน์ใหม่
– กันชนหลัง ดีไซน์ใหม่
Toyota VIOS Minorchange 20172 5
สำหรับเครื่องยนต์บนซิน รหัส 2NR-FBE ขนาด 1.5 ลิตร 1,496 ซีซี. 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ให้พละกำลังสูงสุด 108 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 140 นิวตันเมตร ที่  4,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ล็อคพูเล่ย์ 7 จังหวะ  รองรับน้ำมันสูงสุด E85 น่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง

VIOS / VIOS Exclusive ไทย
Toyota VIOS Minorchange 20172 2Toyota VIOS Minorchange 20172 3Toyota VIOS Minorchange 20172 4Toyota VIOS Minorchange 20172 5Toyota VIOS Minorchange 20172 6Toyota VIOS Minorchange 20172 7Toyota VIOS Minorchange 20172 8
VIOS มาเลเชีย
Toyota VIOS Minorchange 20172 9Toyota VIOS Minorchange 20172 10Toyota VIOS Minorchange 20172 11Toyota VIOS Minorchange 20172 12Toyota VIOS Minorchange 20172 13
Vios จีน
Toyota VIOS Minorchange 20172 14Toyota VIOS Minorchange 20172 15Toyota VIOS Minorchange 20172 16
Yaris L จีน เป็นการนำพื้นฐานของโตโยต้าวีออสมาปรับปรุงลงยาริส
Toyota VIOS Minorchange 20172 17Toyota VIOS Minorchange 20172 18Toyota VIOS Minorchange 20172 19Toyota VIOS Minorchange 20172 20
เรียบเรียงโดย Car250.com
ขอบคุณข้อมูล www.headlightmag.com

ติดตามข่าวสารยานยนต์ก่อนใครผ่านทาง Facebook