ในรอบปีที่ผ่านมา
บรรดาค่ายรถยนต์หรูหราต่างก็พากันออกรถยนต์นั่งขนาดเล็กมาทำตลาดกันอย่างคึกคัก
แน่นอนว่าไม่พ้นบีเอ็มดับเบิลยู ที่สั่งผลิตน้องเล็กของค่ายอย่าง 2014 บีเอ็มดับเบิลยู 116ไอ
เข้าทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
116ไอ จากค่ายใบพัดฟ้า-ขาวนั้น
เป็นเวอร์ชั่นผลิตในประเทศไทยที่โรงงานจังหวัดระยอง
และยังทำราคาจำหน่ายน่าคบหาโดยเริ่มต้นที่ 1.749 ล้านบาทสำหรับรุ่นธรรมดา
แต่หากต้องการรุ่นชุดแต่งเต็มพิกัดแบบที่เห็น ต้องควักกระเป๋าเพิ่มเป็น 1.999
ล้านบาท
แม้จะไม่ได้มีหน้าตาสุดโฉบเฉี่ยวเหมือนพวกรุ่นพี่
แถมยังมีบอดี้ขนาดกระทัดรัดจนดูไม่เหมือนรถหรูจากแคว้นบาวาเรีย
แต่เมื่อได้นั่งลงที่หลังพวงมาลัยของรถคันนี้แล้ว
ก็จะพบว่าความเป็นบีเอ็มดับเบิลยูยังคงซึมแทรกอยู่ในทุกอณู
และพร้อมที่จะพุ่งทะยานออกมาในทันทีเมื่อแตะคันเร่ง
สรุปรวมแล้วถือเป็นรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ
หากคุณมีงบประมาณราว 2 ล้านบาทและไม่จำเป็นต้องใช้รถญี่ปุ่นขนาดใหญ่
แต่ต้องการความสนุกสนานในการขับขี่ที่เพิ่มขึ้น
ช่วงล่างที่ไว้ใจได้ในรูปแบบของรถยุโรปดีดีสักคัน
ถ้าเป็นคนขับรถคนเดียวเป็นหลักหรือมีคู่หูไปไหนด้วยกันอีกคน
ก็ยังไปด้วยกันไหว…
หน้าตาสำอางองค์
ชุดแต่งดุไม่ค่อยโหด
ปกติแล้วรถยนต์ของค่ายนี้ที่ติดตั้งชุดแต่งเอ็ม
สปอร์ตเข้าไปแบบรอบคันจะต้องให้บรรยากาศแบบดุดันสุด ๆ
แต่เมื่อชุดแต่งดังกล่าวมาอยู่ในน้องเล็กของค่าย
กลับไม่ได้ให้บรรยากาศโหดเหมือนกับรุ่นพี่ ๆ แต่อย่างใด
น่าจะเป็นที่การออกแบบพื้นฐานของรถที่ไม่ได้ให้บรรยากาศแบบดุดันมาตั้งแต่แรก
เพราะ 116ไอ
นั้นให้อารมณ์ใกล้เคียงกับการเป็นรถยนต์ธรรมดาไม่ได้หรูหราทันทีตั้งแต่แรกเห็น
แต่ก็เป็นรถยนต์ที่ให้ของมาอย่างครบครัน
ตัวถังแฮชท์แแบ็คแบบทนแรงบิดสูง ช่วยเพิ่มความสามารถในการตอบสนองขณะขับขี่และความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร
มาพร้อมโคมไฟหน้าแบบซีนอนทั้งไฟสูงและไฟต่ำ ติดตั้งไฟตัดหมอก เรนเซนเซอร์
รวมถึงเซนเซอร์ช่วยเหลือในการจอดมาอย่างครบครัน
เพิ่มความดุดันของรถด้วยชุดแต่งเอ็ม สปอร์ต แพคเกจ ประกอบไปด้วย
ชุดแต่งแอโรไดนามิกรอบคัน ล้อแมกซ์ขนาด 17 นิ้ว
มาพร้อมยางรันแฟลต พร้อมด้วยการตกแต่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ในแบบของเอ็ม
ที่ดูเหมือนจะเพิ่มความหรูหราให้รถมากกว่าความดุดัน
เครื่องยนต์เล็กแต่เร้าใจ ใครประมาทมีโดนแซง
แม้จะเลือกใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กกับรถยนต์รุ่นนี้ แต่นี่ก็คือเครื่องยนต์เดียวกับที่ใช้ในรถรุ่นที่ใหญ่กว่ามาก่อนหน้า โดยเครื่องยนต์บีเอ็มดับเบิลยูแบบ 4 สูบ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ตัวนี้ ก็ให้การตอบสนองที่ดีไม่ธรรมดา ในรถยนต์ไซส์เล็กที่มีน้ำหนักเบากว่า
เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,598 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้าที่ 4,400-6,450 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตรที่ 1,350-4,300 รอบต่อนาที ซึ่งถือเป็นกำลังและแรงบิดที่มาที่รอบต่ำมาก แทบจะไม่แตกต่างจากเครื่องยนต์ดีเซลแม้แต่น้อย แถมยังให้เรนจ์ที่กว้างมากพอสมควร
ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดที่เลือกเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างแม่นยำและชาญฉลาด แถมยังเพิ่มความประหยัดด้วยระบบหยุดการทำงานของเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติ ซึ่งแน่นอนว่ามันน่ารำคาญจนผมต้องปิดเอาไว้ทุกครั้งที่สตาร์ทเครื่องเหมือนเคย
บีเอ็มดับเบิลยูระบุว่าเครื่องยนต์รุ่นนี้สามารถพารถคันนี้พุ่งทะยานจากจุดหยุดนิ่งถึงความเร็วระดับ
100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในระยะเวลาแค่
8.7 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 17.9 กิโลเมตรต่อลิตร
การตอบสนองของเครื่องยนต์นั้นถือว่าอยู่ในระดับที่ดีเยี่ยมและเหนือชั้นกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินในกลุ่มเซกเมนต์ที่ใกล้เคียงกัน
ความเร็วและการตอบสนองของเครื่องยนต์สัมพันธ์กับการให้น้ำหนักคันเร่งเป็นอย่างมาก
ผมลองทำความเร็วบนถนนประเทศไทย พบว่าการเร่งไปที่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ที่ 9 วินาทีกว่า ๆ
และการวิ่งที่ความเร็วระดับ 140-150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
รถก็ยังให้ความมั่นใจในการขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม
โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ประมาณ 14-15 กิโลเมตรต่อลิตรเมื่อจบการทดสอบ
ภายในมีไว้ใช้งาน
ไม่หรูเลิศแต่ครบครัน
การออกแบบภายในของ 116ไอนั้นดูจะล้าหลังไปบ้างเมื่อเทียบกับรุ่นพี่ในรุ่นปีเดียวกัน
ที่เดี๋ยวนี้หันไปเน้นความหรูหราที่มาพร้อมฟังชั่นเพียบพร้อมกันหมด
แต่บรรยากาศห้องโดยสารของรถคันนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายนัก
แผงคอนโซลหน้ายังติดตั้งจอแสดงผลขนาดใหญ่
ที่มาพร้อมระบบไอ-ไดร์ฟเพื่อควบคุมฟังชั่นการใช้งานต่าง ๆ เหมือนในรุ่นพี่
ขณะที่พื้นผิวสัมผัสที่ให้มาภายในอาจจะไม่หรูหราเท่า
เนื่องจากวัสดุที่เลือกมาใช้มีความแตกต่างกัน
อย่างไรก็ตาม
บีเอ็มดับเบิลยูก็ได้จัดเต็มมาด้วยเบาะที่นั่งหนังดาโกต้า
ระบบปรับเบาะที่นั่งไฟฟ้าพร้อมระบบความจำ พวงมาลัยหุ้มหนังแบบสปอร์ต
ขณะที่เบาะที่นั่งด้านหลังพับลงได้ในสัดส่วน 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระให้กับรถยนต์ไซส์เล็กคันนี้
ผมเองค่อนข้างชอบความรู้สึกของการขับขี่ภายในห้องโดยสาร
แต่ก็ต้องยอมรับว่าคับแคบเกินไปในกรณีที่คุณเป็นผู้ขับขี่ที่โอเวอร์ไซส์ไปเสียเล็กน้อย
การเข้า-ออกจากห้องโดยสารก็จะยากมากขึ้น
เพราะฉะนั้นถ้าตัวใหญ่มากก็ไม่แนเะนำให้ไปจับจองเป็นเจ้าของนะครับ
ขับขี่ดี มีไว้ใช้งาน คุ้มค่าตัวต่ำ 2 ล้าน
มีคนเดินมาถามผมเกือบตลอดเวลาที่รถคันนี้ไปจอดว่าใช้งานดีหรือไม่ พอผมตอบว่าขับดีนะครับ สนุกใช้ได้เลย มั่นใจได้ไม่มีปัญหา แต่พอบอกว่าราคาเฉียด 2 ล้านบาท หลาย ๆ ก็ก้ม ๆ เงย ๆ แล้วบอกว่าเก็บตังค์ซื้อซีรี่ส์ 3 ดีกว่าไหม
ผมก็ยืนยันคำตอบเดิมว่าต้องขึ้นกับการใช้งานแล้วล่ะครับ ถ้าไม่ได้มีผู้โดยสารที่ต้องนั่งที่เบาะหลังเป็นประจำ ใช้งานแค่คนเดียวหรือเบาะคู่หน้าเป็นหลัก หรือไม่ได้อยากใช้เครื่องยนต์ดีเซล ซีรี่ส์ 1 ก็เพียงพอต่อการตอบสนองความต้องการในการใช้งานแล้ว
เครื่องยนต์ที่ให้การตอบสนองอย่างรวดเร็วทันใจ พวงมาลัยที่แม่นยำและคมกริบ รวมถึงช่วงล่างที่ใช้งานได้ดีในทุกย่านความเร็ว คือหัวใจสำคัญที่ทำให้รถคันนี้น่าจะโดนใจผู้ใช้งานได้ไม่ยาก แถมด้วยราคาจำหน่ายที่ตั้งไว้ยั่วยวนใจพอสมควร
แต่เมื่อเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กก็ย่อมถูกจำกัดด้วยพื้นฐานรูปร่างของตัวรถเอง ไม่ว่าจะเป็นห้องโดยสารที่อาจจะไม่หรูหรา อู้ฟู่ มีที่ทางมากมายเหมือนรุ่นพี่เขา ขณะที่หน้าตาก็ดูออกจะน่ารักพริ้มเพราะมากกว่าที่จะเป็นสายพันธุ์สปอร์ตซีดานอย่างบีเอ็มดับเบิลยู
แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ ผู้หญิงส่วนใหญ่จะชอบรถคันนี้ เพราะว่าด้วยความน่ารักของรถที่ออกแบบมาอย่างกลมมน สีสันสดใส แต่พอลงไปนั่งจริง ๆ แล้ว สุภาพสตรีส่วนใหญ่ที่เข้ามาขอลองจะบอกว่ากะระยะค่อนข้างยาก ก็ได้แต่บอกว่าน่าจะเป็นเรื่องของความไม่เคยชินมากกว่า
ของพวกนี้ต้องลองไปนาน ๆ ถ้าใช่เดี๋ยวก็ติดใจเอง…
รายละเอียดทางเทคนิค 2014 บีเอ็มดับเบิลยู 116ไอ เอ็ม สปอร์ต
| ราคาจำหน่าย | 1.999 ล้านบาท |
| เครื่องยนต์ | เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1,598 ซีซี |
| กำลังสูงสุด | 136 แรงม้าที่ 4,400-6,450 รอบต่อนาที |
| แรงบิดสูงสุด | 220 นิวตันเมตรที่ 1,350-4,300 รอบต่อนาที |
| ระบบส่งกำลัง | อัตโนมัติ 8 สปีด |
| อัตราเร่ง | 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 8.7 วินาที |
| ความเร็วสูงสุด | 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง |
| อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย | 17.9 กิโลเมตรต่อลิตร |
คลิกหารถสภาพดี ถูกที่สุดในประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น