ตร.-คมนาคมจัดหนัก! ชงเพิ่มโทษขับรถไร้ใบขับขี่ ปรับโหด1หมื่น-คุก3เดือน




คมนาคม-ตำรวจ เห็นด้วยเพิ่มโทษไม่พกใบขับขี่ จากปรับไม่เกิน 1 พัน คุกไม่เกิน 1 เดือนเป็นคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 5 พัน-1 หมื่น  เผยค่าปรับของไทยต่ำมากทำให้คนไม่กลัว

 นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงผลการประชุมคณะอนุกรรมการประสานการแก้ไขปัญหาการจราจรและขนส่งระยะเร่งด่วน ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) เสนอให้แก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการจราจรทางบก เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่และควบคุมวินัยการจราจรบนท้องถนนให้เข้มข้นมากขึ้น
 
 บชน. เสนอเพิ่มโทษผู้ขับรถยนต์โดยไม่มีใบอนุญาต เป็นจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากปัจจุบันที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 
 “เบื้องต้นที่ประชุมเห็นด้วยแต่เสนอว่าควรมีการเพิ่มโทษให้มากกว่าที่ บชน.เสนอ เพราะต้องการให้ผู้ขับขี่เกรงกลัวต่อกฎหมายมากขึ้น โดยมอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ไปศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับบทกำหนดโทษที่เหมาะสมและนำกลับมาเสนอที่ประชุมอนุฯ ภายใน 1 เดือน หรือภายในเดือนก.ย.นี้”
 
 ปัจจุบันโทษปรับไม่มีใบขับขี่ของไทยน้อยมาก ทำให้คนไม่เกรงกลัวกฎหมาย ขับรถแบบไม่สนใจวินัยจราจร ทำให้เกิดปัญหารถติดขัด หากจะมีการเพิ่มโทษเราก็เห็นด้วย ซึ่งที่ผ่านมาในต่างประเทศให้ความสำคัญกับเรื่องใบขับขี่มาก โดยในสิงคโปร์หากไม่มีใบขับขี่ถูกปรับหนักมากถึง 1.2 แสนบาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หากผิดครั้งที่ 2 ปรับเพิ่มเป็น 2.5 แสนบาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 ปี ขณะที่ญี่ปุ่นปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 ปี
 
 นางสร้อยทิพย์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ สนข. ยังเสนอให้มีการทบทวนช่วงเวลาและวันในการห้ามจอดรถยนต์บนถนนสายหลัก 7 เส้นทาง ในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อบรรเทาปัญหาในพื้นที่ รวมทั้งเสนอให้มีกรุงเทพมมหานคร มีการจัดเก็บค่าที่จอดรถในบริเวณที่อนุญาตให้จอดมากขึ้น เพื่อเป็นรายได้ให้กับท้องถิ่น
 
 มอบหมายให้ สนข., สำนักการจราจรและขนส่ง กทม.(สจส.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก 88 สน.ที่เกี่ยวข้องไปทำงานร่วมกัน เพื่อกำหนดพื้นที่จอดรถและอัตราการจัดเก็บค่าจอดรถที่เหมาะสม และแก้ปัญหาการเปิด-ปิดไม้กั้นทางรถไฟให้สอดคล้องกับสัญญาณไฟจราจรมากขึ้นเพื่อแก้ปัญหาอีกทางหนึ่ง

ข้อมูล : khaosod.co.th
เรียบเรียง : kcycar.com

ติดตามข่าวสารยานยนต์ก่อนใครผ่านทาง Facebook


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น