สาระน่ารู้เกี่ยวกับการโจรกรรมรถยนต์-จักรยานยนต์
รถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นทรัพย์สินที่มีราคาสูง เป็นทรัพย์ที่เคลื่อนที่ได้รวดเร็ว คนร้ายมีโอกาสโจรกรรมได้ทุกเวลา เจ้าของรถต่างก็มีความหวงแหนและต้องการใช้ให้คุ้มค่าถ้าหากรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ถูกโจรกรรมไป นับว่าเป็นการสูญเสียทรัพย์เป็นจำนวนมาก และเป็นความเดือดร้อนของเจ้าของอย่างมาก
กรมตำรวจ ได้ตระหนักถึงความเสียหายและความเดือดร้อนของประชาชนในเรื่องดังกล่าวนี้ จึงแนะวิธีการในการป้องกันรถยนต์และรถจักรยานยนต์ หรือรถหายจากการถูกโจรกรรมดังนี้
1. เมื่อซื้อรถใหม่มาใช้ เนื่องจากรถใหม่คนร้ายสามารถนำไปขายได้ง่ายและเป็นราคาสูงประกอบกับรถใหม่ เจ้าของรถยังไม่ได้ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการถูกโจรกรรม ซึ่งเป็นเหตุให้คนร้ายชอบการโจรกรรมรถใหม่ๆ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย เมื่อท่านซื้อรถคันใหม่มาใช้ ควรจอดรถในสถานที่ที่มีคนเฝ้าและติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการถูกโจรกรรม
2. เมื่อต้องการใช้รถที่ใช้แล้ว ก่อนที่ท่านจะตกลงซื้อ ควรขอหมายเลขเครื่อง หมายเลขตัวถัง และหมายเลขทะเบียนรถมาตรวจสอบกับหน่วยทะเบียนยานพาหนะ ที่รถคันนั้นมีทะเบียนอยู่ เช่น รถที่ใช้ป้ายต่างจังหวัด ก็ตรวจสอบที่หน่วยทะเบียน ยานพาหนะของจังหวัดนั้นๆ หรือ รถที่ใช้ป้ายกรุงเทพมหานครก็ตรวจสอบได้ที่ กองทะเบียนกรมตำรวจ หรือศูนย์ประมวลข่าวสารกรมตำรวจ เมื่อท่านซื้อมาแล้วควรเปลี่ยนกุญแจประตู กุญแจเครื่องยนต์เสียใหม่เพราะกุญแจเดิมอาจอยู่ในมือของคนร้ายด้วยวิธีใดก็ตาม และกำลังรอโอกาสที่จะโจรกรรมรถของท่านอยู่
3. การนำรถไปจอดในสถานที่ต่างๆ เมื่อท่านต้องนำรถไปใช้ประกอบธุรกิจหรือการงานนอกบ้าน สถานที่ที่ท่านจะจอดไว้ ไม่ควรอยู่ห่างไกลสายตา (ไม่ว่าจะจอดไว้เพียงระยะสั้นก็ตาม) สถานที่ที่ควรจอดไว้ก็คือ สถานที่ที่มีคนเฝ้าดูแลทุกครั้งที่จะจอดรถต้องล็อคประตู ปิดหน้าต่างให้เรียบร้อย และเปิดสวิตซ์ป้องกันการโจรกรรมไว้ทุกครั้ง
4. การใช้พนักงานขับรถ บุคคลที่ท่านจะว่าจ้างให้มาเป็นพนักงานขับรถประจำนั้นควรเป็นบุคคลที่ท่านรู้จักนิสัย ความประพฤติหรือคุ้นเคยกันมาก่อน และต้องเป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์ไว้วางใจได้เมื่อท่านว่าจ้างแล้วควรมีรูปถ่ายประวัติส่วนตัวไว้ด้วย เพราะผู้ที่เป็นพนักงานขับรถมีโอกาสที่จะโจรกรรมรถของท่านหรือเป็นสายให้กับคนร้ายมาโจรกรรมรถท่านได้ง่าย (ควรขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่พิมพ์มือผู้ตรวจสอบประวัติ)
5. การนำรถไปล้างอัดฉีด ในการล้างอัดฉีดรถยนต์แต่ละครั้ง จำเป็นต้องใช้เวลานานและท่านไม่อาจอยู่ควบคุมดูแลได้ การมอบกุญแจรถยนต์ให้กับคนงานล้างอัดฉีดไว้แล้วท่านกลับมารับรถภายหลัง กรณีนี้ขอให้ท่านพึงระมัดระวังไว้ว่าคนงานอาจเป็นคนร้ายหรือสายของคนร้ายที่จะฉวยโอกาสทำกุญแจปลอมเก็บไว้ รวมทั้งดูรายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์ป้อง กันการถูกโจรกรรม แล้วรอโอกาสติดตามทำ การโจรกรรมรถยนต์ของท่านได้ ดังนั้น ในการล้างอัดฉีดทุกครั้งควรควบคุมดูแลโดยตลอด หรือถ้ามีความจำเป็นและไม่อาจควบคุมดูแลได้ ควรนำรถไปล้างอัดฉีดที่สถานบริการที่ท่านคุ้นเคยและไว้วางใจได้นั้น
6. การนำรถไปดัดแปลงแก้ไข หรือซ่อมแซม เนื่องจากช่างซ่อมเครื่องยนต์ เคาะ พ่นสี หรือช่างซ่อมทั่วๆ ไป เป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจในระบบกลไกของรถและอุปกรณ์ต่างๆ เป็นอย่างดี และอาจเป็นไปได้ว่าช่างประจำอยู่ตามสถานบริการซ่อมรถต่างๆ อาจเป็นผู้ร่วมแก๊งคนร้ายที่รอโอกาสเมื่อท่านนำรถไปดัดแปลงแก้ไขหรือซ่อมแซม ฉะนั้น ในการดัดแปลงแก้ไข หรือซ่อมแซม ควรกระทำตามอู่หรือสถานบริการที่ท่านมีความสนิทสนมคุ้นเคยและไว้วางใจ หรือคอยควบคุมดูแลโดยตลอด
7. การใช้กุญแจรถ มีรถบางชนิดใช้กุญแจรถชนิดเดียวกัน สำหรับเปิดประตูติดเครื่องยนต์เปิดลิ้นชักและฝาน้ำมัน ฉะนั้นเมื่อฝาน้ำมันหาย อาจเป็นได้ว่าคนร้ายได้นำไปเพื่อทำแบบสร้างกุญแจปลอม สำหรับนำมาโจรกรรมรถของท่าน ฉะนั้นหากฝาถังน้ำมันของท่านหาย ควรรีบเปลี่ยนกุญแจที่ใช้กับรถคันดังกล่าวเสียใหม่ โดยใช้กุญแจที่ใช้ได้เฉพาะแห่งเท่านั้น และเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ
8. ความระมัดระวังในการใช้อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อป้องกันการถูกโจรกรรมก่อนลงจากรถอาจมีคนร้ายคอยสังเกตเกี่ยวกับสถานที่ติดตั้ง หรือรูปแบบและวิธีการใช้อุปกรณ์ดังกล่าวแล้วติดตามโจรกรรมรถของท่านในโอกาสต่อไป ฉะนั้น ในการใช้เครื่องอุปกรณ์ป้องกันการโจรกรรมทุกครั้ง ควรกระทำอย่างมิดชิดและลับตาผู้อื่น
9. ตำหนิรูปพรรณยานพาหนะ ท่านควรทราบข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับรถของท่านโดยละเอียด เช่น หมายเลขประจำตัวถังรถ หมายเลขประจำเครื่องยนต์หมายเลขทะเบียนและลักษณะพิเศษอื่นๆ โดยจดรายละเอียดติดไว้เสมอเพื่อป้องกันว่าหากรถของท่านถูกโจรกรรม จะได้แจ้งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง ถ้าหากรถของท่านไม่มีลักษณะพิเศษที่สังเกตได้ง่าย ก็ควรทำขึ้นไว้ในลักษณะที่บุคคลภายนอกไม่สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้เพื่อสะดวกในการติดตามเมื่อถูกโจรกรรม และเป็นการป้องกันทางอ้อมได้อีกด้วย
10. การจอดรถจักรยานยนต์ เนื่องจากรถจักรยานยนต์สามารถนำหรือยกขึ้นรถอื่นๆ ไปได้ง่าย ฉะนั้น ในการจอดรถ นอกจากจะล็อคกุญแจตามปกติแล้ว หากเป็นไปได้ควรล่ามโซ่ไว้ด้วยเพื่อป้องกันการถูกโจรกรรมอีกชั้นหนึ่ง
11. การถูกติดตามในขณะขับรถ ถ้าท่านสังเกตว่ามีผู้ขับรถติดตามท่านมาให้พึงสังวรณ์ไว้ว่า ผู้ที่ติดตามท่านอาจจะหาช่องทางที่จะโจรกรรมรถยนต์ของท่านด้วยวิธีหนึ่งวิธีใด ฉะนั้นท่านไม่ควรที่จะจอดรถในบริเวณหรือสถานที่ที่ท่านไม่คุ้นเคยหรือไม่มีผู้เฝ้าดูแล และถ้าเป็นไปได้ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่บริเวณใกล้เคียงทราบ
12. การถูกติดตามในขณะขับรถ ถ้าท่านสังเกตว่ามีผู้ขับรถติดตามท่านมาให้พึงสังวรไว้ว่า ผู้ที่ติดตามท่านอาจจะหาช่องทางที่จะโจรกรรมรถยนต์ของท่านด้วยวิธีหนึ่งวิธีใด ฉะนั้นท่านไม่ควรที่จะจอดรถในบริเวณหรือสถานที่ที่ท่านไม่คุ้นเคยหรือไม่มีผู้เฝ้าดูแล และถ้าเป็นไปได้ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่บริเวณใกล้เคียงทราบ
13. ไม่ควรจอดรถไว้ในที่เปลี่ยวหรือลับตาคน
14. ไม่ควรจอดรถทิ้งไว้ค้างคืนในถนน ไม่ว่าจะมีเครื่องป้องกันชนิดใดก็ตาม เพราะอาจถูกโจรกรรมได้ง่าย
15. เมื่อจอดรถทิ้งไว้เพื่อไปทำธุระ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ถ้าเป็นรถยนต์ควรปิดประตูกระจก และล็อคประตูให้เรียบร้อย ถ้าเป็นรถจักรยานยนต์ควรล็อคหรือใช้เครื่องมือกันขโมยเท่าที่มีอยู่โดยเฉพาะถ้าจอดเวลานานควรตรวจตราการล็อคให้เรียบร้อย
16. ควรติดตั้งสัญญาณกันขโมย เพื่อป้องกันรถหาย
17. เมื่อกุญแจรถ หรือกุญแจฝา น้ำมันหายควรจะเปลี่ยนเสียใหม่ทั้งชุดทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้ผู้ที่เก็บได้จะสวมรอยขโมยรถของท่านในภายหลัง
18. ไม่ควรรับคนแปลกหน้าขึ้นรถในที่เปลี่ยว เพราะอาจถูกจี้เอารถไปได้
19. การจอดรถในบ้านหรือใกล้บ้าน (สำหรับบ้านที่ไม่มีรั้วรอบขอบชิด) ให้จอดไว้ในบริเวณที่มีแสงสว่างเห็นได้ชัด
20. ไม่ควรจอดรถไว้นอกบ้านโดยไม่จำเป็น ควรทำรั้วรอบขอบชิดหรือทำโรงไว้ในบริเวณที่มีแสงสว่างเห็นได้ชัด
21. ตามแฟลตหรือตามทาวน์เฮ้าส์ต่างๆ ควรจะได้จัดเก็บรักษารถไว้ให้เป็นสัดส่วนและมีคนเฝ้ารักษา โดยเสียค่าบริการบ้างจะปลอดภัยกว่า
22. เมื่อทราบว่ารถของท่านหาย ให้รีบแจ้งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบโดยเร็ว.
ข้อมูล : 59buzz.com
เรียบเรียง : kcycar.com
ติดตามข่าวสารยานยนต์ก่อนใครผ่านทาง Facebook
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น