แม้ว่าคันที่เรานำมาฝากเป็นเวอร์ชั่นยุโรปที่ติดตั้งพวงมาลัยซ้าย แต่ดีไซน์ทั้งภายนอก-ภายในคาดว่าจะเหมือนกับที่จะเข้ามาจำหน่ายในบ้านเราช่วงปี 2018 เพียงแต่มีอุปกรณ์มาตรฐานบางอย่างที่ต่างกันออกไป ซึ่งเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในฝรั่งเศสหากแบ่งตามระบบขับเคลื่อนจะมีให้เลือกถึง 3 แบบ ทั้งรุ่นเบนซินเทอร์โบ 1.2 ลิตร จำนวน 4 รุ่น รุ่นเบนซินเทอร์โบ 1.2 ลิตร ขับเคลื่อนสี่ล้อจำนวน 3 รุ่น และรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดอีกจำนวน 3 รุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีรุ่นย่อยแยกออกไปอีก ได้แก่ Active, Dynamic, Graphic และ Distinctive
ภายนอกมาพร้อมไฟหน้าแบบ LED, ไฟท้ายแบบ LED (อ็อพชั่นเสริมสำหรับรุ่นท็อปสุด Graphic และ Distinctive) พร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว (รุ่นล่างสุดมีขนาด 17 นิ้ว) ติดตั้งระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, หลังคาสีดำ รวมถึงระบบ Smart Entry ทำงานคู่กับปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์, กระจกมองข้างปรับพับอัตโนมัติ พร้อมไฟส่องสว่างรูปโลโก้ C-HR
ห้องโดยสารภายในติดตั้งระบบอินโฟเทนเม้นท์ Toyota Touch 2 ขนาด 8 นิ้ว พร้อมช่องต่อ USB/AUX และบลูทูธ โดยในรุ่นท็อปสุดมาพร้อมลำโพง JBL จำนวน 9 จุดรอบคัน, หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ 3 ก้าน รวมถึงระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ประกอบด้วย ระบบเตือนการชนด้านหน้า, ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ, ระบบเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่, ระบบอ่านป้ายจราจรอัจฉริยะ เป็นต้น
ด้านขุมพลังเวอร์ชั่นยุโรป ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.2T ให้กำลังสูงสุด 116 แรงม้า (PS) ติดตั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีดในรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ และเกียร์อัตโนมัติ CVT ในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ขณะที่รุ่นไฮบริด 1.8 ลิตร ให้กำลังรวมทั้งระบบสูงสุด 122 แรงม้า มีให้เลือกเฉพาะรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ พร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT
ภาพจาก Toyota UK
ข้อมูล auto.sanook.com
ติดตามข่าวสารยานยนต์ก่อนใครผ่านทาง Facebook
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น