ม.44 โทษหนัก!! กระบะหลังห้ามโดยสาร

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ห้ามโดยสารกระบะหลัง

ได้มีการส่งข้อมูลแชร์กันอย่างแพร่หลายในสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะ “ไลน์” ว่า จะมีการใช้ ม.44 แก้ไข พ.ร.บ.จราจรทางบก เกี่ยวกับเมาไม่ขับ และการคาดเข็มขัดนิรภัย โดยมีอัตราโทษหนักและเข้มงวดมากขึ้น ข้อความดังนี้....

“ม.44 ออกมาแล้วครับ รถเก๋ง รถกระบะนั่งได้แค่ 4 คนเท่านั้น ผู้โดยสารก็ต้องรัดเข็มขัดทุกคน ตามกฎพ.ร.บ.จราจร ออกกฎหนัก 10 เท่า แจ้งให้ทราบ เมื่อมีเหตุรถตู้ขับรถข้ามเลนมาชนกระบะ isuzu ทำให้มีผู้เสียชีวิต 25 รายนั้น เส้น 314 บ้านบึงที่ผ่านมา มีกฎหมายออกมาดังนี้ ม.44 บังคับใช้ คนบ้านนอกคอกนาที่ใช้รถกระบะบรรทุกคน ต่อไปนี้กระบะหลังห้ามผู้โดยสารนะครับ ปรับหนักด้วย

 1. กรณีเมาแล้วขับปรับ 20,000-60,000 หรือทั้งจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา

2.กรณีเมาแล้วขับรถชนให้คนอื่นเสียหายปรับ 20,000-50,000 หรือทั้งจำและปรับ โทษจำนวน 6 เดือน

3.กรณีเมาแล้วขับทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตถึงแก่ความตาย ปรับ 60,000-200,000 ทั้งจำและปรับติดคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา

4.กรณีขับรถเก๋ง ต้องคาดเบลต์ทั้งคนขับและคนนั่งข้าง ส่วนด้านห้องผู้โดยสารฝั่งหลังถ้ามีคนนั่งต้องคาดด้วย รถเก๋งนั่งไม่เกิน 4 คนเท่านั้น ปรับ 20,000-60,000

5. กรณีขับรถกระบะ นั่งได้ไม่เกิน 4 ที่นั่งเท่านั้น หลังกระบะห้ามนั่งฝ่าฝืนปรับ 20,000-60,000 นี่คือสิ่งที่พี่น้องเราควรทราบนะ เริ่มพรุ่งนี้เป็นต้นไป จับจริง ปรับจริง ติดคุกจริง ไม่รอลงอาญา แจ้งให้ทราบนะครับ จับจริง ปรับจริง และติดคุกจริงครับ เส้นดีก็อาจจะรอด เก็บเงินค่าปรับไว้ไปกินหมูกระทะกันดีกว่า รถซิ่งแข่งบนถนนยึดรถ ติดคุกนะครับ”

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการชี้แจงจาก พล.ต.ต.จิระสันต์ แก้วแสงเอก ผบก.จร.ว่า ข้อมูลดังกล่าวมีการคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องการคาดเข็มขัดนิรภัย ทั้งนี้ ปัจจุบันกฎหมายบังคับใช้เฉพาะคนขับกับคนนั่งด้านหน้าเท่านั้น แต่กฎหมายที่กำลังแก้ไขนั้นจะกำหนดให้บังคับกับผู้โดยสารด้านหลังด้วย หรือต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกคน แต่ไม่ได้ห้ามว่ารถเก๋งจะนั่งได้เพียง 4 คน ตามที่ข้อมูลที่แชร์กัน ส่วนการเพิ่มโทษกรณีเมาแล้วขับนั้น จะมีการแก้ไขให้เหมาะสมขึ้น อย่างไรก็ตาม ในรายละเอียดนั้นยังต้องเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาอีก 3 วาระ ก่อนที่จะประกาศบังคับใช้ ส่วนสาเหตุที่มีการแก้ไขนั้น เนื่องจากรัฐบาลต้องการลดปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเทศกาล.

ที่มา : www.thairath.co.th
เรียบเรียง : Kcycar.com

ติดตามข่าวสารยานยนต์ก่อนใครผ่านทาง Facebook



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น