รถชน ทำอย่างไร ถ้าไม่มีประกันรถยนต์

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รถชน

วันหนึ่งคุณอาจจะโชคร้ายประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา แม้ว่าคุณจะเป็นคนที่มีความสามารถทางด้านการขับรถมากแค่ไหน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีความเสี่ยงในอุบัติเหตุ เพราะถนนไม่มีเพียงรถของคุณเพียงคันเดียว แต่ยังมีรถและผู้ขับคันอื่น ๆ อีกเป็นแสนเป็นล้านคัน ดังนั้น เพื่อร่วมทางอาจจะเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุก็ได้เช่นกัน และหากเกิดเหตุ รถชน ขึ้น คุณต้องรู้ว่าคุณควรจะทำอย่างไร 

1. จอดรถทันที หากคุณเกิดอุบัติเหตุ คุณควรต้องหยุดรถทันที ตรวจสอบเครื่องยนต์รถของคุณให้มั่นใจว่าดับสนิทแล้ว  จากนั้นจึงเปิดไฟฉุกเฉินไว้ เพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้ถนนคนอื่น ๆ ทราบว่าเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นค่ะ ซึ่งการจอดรถทันทีที่เกิด รถชน นั้น เป็นเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีความสะดวกในการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ว่าใครเป็นฝ่ายผิดถูก อย่างไรก็ดี การจอดรถกลางถนน ถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกนะคะ ดังนั้น การติดกล้องติดรถยนต์เอาไว้ ถือเป็นทางเลือกที่ฉลาดทีเดียว เพราะคุณไม่จำเป็นต้องจอดรถคาไว้กลางถนนเพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำวจมาตรวจที่เกิดเหตุ สามารถใช้วีดีโอที่บันทึกไว้เป็นหลักฐานได้เลย

บทความน่าอ่าน: ทริกเด็ดประหยัดเงิน เปลี่ยนสมาร์ทโฟนเป็นกล้องติดรถยนต์

2. แจ้งตำรวจ เมื่อจอดรถสนิทแล้ว คุณควรโทรแจ้งตำรวจทันที หลังจากนั้นสำรวจรอบ ๆ ว่ามีใครได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือไม่ หากมีให้เรียกรถพยาบาลโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จากนั้นให้รีบถ่ายภาพในที่เกิดเหตุเอาไว้เป็นหลักฐาน โดยห้ามเคลื่อนย้ายรถหรือเปลี่ยนแปลงที่เกิดเหตุเป็นอันขาด ในกรณีที่คุณไม่มีกล้องติดรถยนต์ที่สามารถใช้เป็นหลักฐานได้ สิ่งที่สำคัญคือ ห้ามเซ็นเอกสารใด ๆ ที่เจ้าหนี้ที่ประกันของอีกฝ่ายให้คุณเซ็นเด็ดขาด เพราะประกันรถยนต์อาจจะยัดเยียดความเป็นฝ่ายผิดให้กับคุณได้ ทางที่ดีที่สุดคือ รอจนกว่าตำรวจจะมาถึงและตรวจสอบที่เกิดเหตุก่อน  

3. ให้รายละเอียด เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง คุณจำเป็นต้องแจ้งชื่อและที่อยู่ของคุณให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้องทราบ โดยอย่ามอบ (รวมถึงอย่าให้ถ่ายภาพ) เอกสารสำคัญที่จะยืนยันตัวตนของคุณ ให้กับคู่กรณีและเจ้าหน้าที่ประกันของคู่กรณีเด็ดขาด ให้ยืนยันตัวตนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น และที่สำคัญที่สุด หลีกเลี่ยงการพูดขอโทษหรือรับโทษสำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น รวมถึงการเซ็นรับเป็นฝ่ายผิดที่เจ้าหน้าที่ประกันอีกฝ่ายพยายามให้คุณเซ็นอย่างที่เราบอกไปในข้อที่แล้วด้วย จนกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึงและตัดสินตามสถานการณ์ และรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนั้นคุณเป็นฝ่ายถูกหรือเป็นฝ่ายผิด ซึ่งหากคุณมีกล้องติดรถยนต์เอาไว้ จะถือว่าเป็นประโยชน์มาก ๆ เพราะถือว่าเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือและสำคัญมาก

บทความน่าอ่าน: กล้องติดรถยนต์ ช่วยลดเบี้ยประกันรถยนต์ได้

4. เก็บรวบรวมรายละเอียด เมื่อคุณให้รายละเอียดเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือคุณต้องเก็บรวบรวมรายชื่อ ที่อยู่ และรายละเอียดจากคนขับรถ ผู้โดยสาร และพยานของคู่กรณีให้ได้มากที่สุด เพื่อที่คุณจะได้ให้ข้อมูลนี้ในการดำเนินการต่อไป เช่น หากคุณเป็นฝ่ายถูก แล้วประกันรถยนต์ของคู่กรณีจะต้องรับผิดชอบค่าซ่อมรถของคุณ คุณจะได้ติดตามเรื่องได้ และอย่าลืมจดเลขทะเบียนรถของคู่กรณีไว้ด้วย ทางที่ดีถ่ายรูปเก็บเอาไว้เลย เพราะถ้าหากคู่กรณีหลบหนีจากที่เกิดเหตุ คุณจะได้มีข้อมูลที่ครบถ้วนเพื่อแจ้งให้ตำรวจได้รับทรายแต่ติดตามคดีต่อไปค่ะ

ข้อมูลสำคัญที่ควรเก็บรวบรวมจากที่เกิดเหตุ

  • หมายเลขทะเบียนรถยนต์ ของทุกคนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการจดบันทึกสีของรถและรูปแบบของรถคันที่เกี่ยวข้องด้วย โดยการจดอาจจะเกิดความคลาดเคลื่อนได้ เราขอแนะนำว่าใช้วิธีถ่ายรูปเอาไว้เป็นหลักฐานจะดีที่สุด เพราะมีความน่าเชื่อถือกว่ามาก

  • จดบันทึกวันและเวลาในช่วงเกิดเหตุ

  • ร่างแผนที่แสดงตำแหน่งของที่เกิดเหตุ หรือพินพิกัดเอาไว้ใน map ในมือถือของคุณเลยยิ่งดี เพราะเมื่อต้องกลับมาที่เกิดเหตุในภายหลังจะได้มาถูก

  • อธิบายรายละเอียดของสภาพอากาศ รวมทั้งสิ่งผิดปกติต่าง ๆ ที่คุณสังเกตเห็น แต่อย่างที่บอกไว้ข้างต้น ถ่ายรูปเก็บไว้เลยจะดีที่สุดค่ะ

  • ถ่ายภาพความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์ของคุณ และอาการบาดเจ็บของทั้งคุณและคู่กรณีด้วย

ไม่อยากการเงินพัง เป็นหนี้สิน ขาดสภาพคล่อง ก็ต้องทำประกันประกันรถยนต์

เห็นไหมคะว่า เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วมันยุ่งยากแค่ไหน หากคุณเป็นฝ่ายผิดด้วยแล้ว คุณต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณี และอื่น ๆ อีกด้วย ลำพังค่ารักษาพยาบาลและค่าซ่อมรถของตัวเองก็หนักอยู่แล้ว เรียกได้ว่า อาจจะทำให้การเงินของคุณพังทลายลงไปเลยก็ได้ ดังนั้น การทำประกันรถยนต์เอาไว้จึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันสามารถช่วยแบ่งเบาภาระตรงนี้ให้คุณได้

สมัยนี้ การหาประกันรถยนต์เป็นสิ่งที่สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพราะมีเว็บไซต์เปรียบเทียบราคาประกันรถยนต์ อย่าง MoneyGuru.co.th ที่ช่วยให้คุณเช็กราคาประกันรถยนต์จากบริษัทประกันภัยกว่า 40 บริษัทในที่เดียว นับว่าครอบคลุมที่สุดในบรรดาเว็บไซต์เปรียบเทียบราคาประกันรถยนต์ประเทศไทย ไม่ต้องเสียเวลาขับรถไปเปรียบเทียบราคาประกันกับหลาย ๆ บริษัท ไม่ต้องเปิดเว็บไซต์บริษัทประกันหลาย ๆ แท็บให้ปวดหัว เพียงแค่ไม่กี่คลิก ประกันรถยนต์พร้อมรายละเอียดทั้งหมด ก็จะแสดงอยู่ที่หน้าจอของคุณ สะดวก ง่าย รวดเร็ว

เปรียบเทียบประกันรถยนต์

เมื่อรถมีประกัน เกิดเหตุแล้วต้องทำอย่างไร?

เมื่อเกิดเหตุขึ้นมา สิ่งที่คุณต้องทำคือโทรเรียกประกันทันที ต่อจากนั้นก็ให้ประกันจัดการทุกอย่างเอง โดยระหว่างรอเจ้าหน้าที่ประกันรถยนต์มาที่เกิดเหตุ สิ่งที่คุณต้องทำก็คือขั้นตอนต่าง ๆ ที่เรากล่าวไว้ข้างต้นเช่นกัน เพื่อเป็นการเซฟตัวเองเอาไว้อีกชั้น เพื่อว่ามีเหตุที่จะต้องมีการต่อสู่คดีอะไรต่าง ๆ ในภายหลัง คุณจะได้มีหลักฐานเอาไว้ประกอบค่ะ

การทำประกันเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งนะคะ เพราะถ้าหากคุณไม่มีประกัน ทุกอย่างก็ดูจะยุ่งยากไปหมด แต่ถ้าคุณมีประกัน เมื่อเกิดเหตุทุกอย่างก็จะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาทันทีค่ะ และหากคุณต้องการอ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเงิน บัตรเครดิต รถยนต์ และประกันรถยนต์ คุณสามารถกด Subscribe ทีนี่ได้เลยค่ะ MoneyGuru.co.th จะส่งสาระความรู้ดี ๆ แบบนี้ตรงถึงอีเมลของคุณทุก ๆ สัปดาห์

ที่มา : www.moneyguru.co.th

ติดตามข่าวสารยานยนต์ก่อนใครผ่านทาง Facebook


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น