เตรียมมาตรการลงโทษผิดกฏจาราจร 1 ปีเกิน 3 ครั้งพักใช้ใบอนุญาต คาด 4 เดือนบังบับใช้


วันนี้ (17 มี.ค.)  พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ  ผช.ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรระดับสารวัตรขึ้นไป 88 สน. และบก.จร.  เพื่อรับฟังข้อสรุปการจัดการจราจรแบบบูรณาการร่วมระหว่างนครบาลและภูธร รวมทั้งตำรวจทางหลวง
         
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า จากที่ใช้นโยบายในการควบคุมการจราจรจากส่วนกลาง ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยการนำผู้บังคับบัญชาจากส่วนพื้นที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หรือ CEO จราจรมาจัดเข้าเวร ที่ บก.02 เพื่อพิจารณาสั่งการแก้ไขปัญหาการจราจร ทั้งปัญหาที่วางไว้ในระยะยาวและปัญหาเฉพาะหน้าในแต่ละเรื่องเน้นว่าเมื่อเกิดปัญหาให้รีบแก้ที่สาเหตุโดยเร็ว ทำให้การแก้ไขด้านจราจรมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ยังพบว่ายังมีอีกหลายจุดที่ต้องปรับปรุง อาทิเรื่องการวางกำลังประจำจุด ซึ่งวันนี้จะเป็นการสรุปผลปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน และรับฟังปัญหาการปฏิบัติว่าติดขัดในส่วนไหน
         
สำหรับแนวทางการทำงานหลังจากนี้จะเน้นจุดที่มีการฝ่าฝืนทำให้รถติด เช่น การจอดกีดขวาง การจอดรถ การวางของเกะกะ เพื่อเพิ่มพื้นผิวจราจรทั้ง 4 ทิศให้ใช้การได้มากที่สุด แต่ยอมรับว่าการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจจราจรเหมือนการจับปูใส่กระด้ง ดังนั้นจะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ในการติดตั้งกล้องตรวจจับความผิด และวางมาตรการในการลงโทษ เช่น ถ้าภายในเวลา 1 ปี ทำผิดครบ 3 ครั้ง จะถูกพักใช้ใบอนุญาต โดยเฉพาะรถสาธารณะถ้าไม่เข็ดหลาบจะมีการพิจารณาพัก ใช้ใบอนุญาตในระยะยาว เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและทำให้การบังคับ ใช้กฎหมายมีความเด็ดขาดมากขึ้น รวมทั้งจะช่วยลดปัญหากำลังพลจราจรที่ขาดแคลนในการ อำนวยความสะดวกจราจร คาดว่าอีกประมาณ 120 วัน  มาตรการดังกล่าวจะถูกนำมาใช้ได้
         
พล.ต.ท.ประวุฒิ   ได้กำชับสั่งการในที่ประชุม  ถึงการแก้ปัญหารถติดตามสถานที่กวดวิชา หน้าห้างสรรพสินค้า ว่าหากสถานที่ใดทำให้รถติด ให้ CEO ใช้อำนาจสั่งการให้ปิดทางเข้าเพื่อระบายรถทางตรงให้วิ่งได้ จนกว่าสถานที่นั้นๆ จะจัดการปัญหาที่จอดรถภายในให้คล่องตัวได้ และสั่งกำชับให้กวดขันกับรถจักรยานยนต์ที่ขึ้นไปวิ่งบนสะพานข้ามแยกต่างๆ เช่น ที่สะพานข้ามแยกประตูน้ำ ที่พบปัญหาเยอะมากและทำให้รถติดพันเป็นวงกว้าง รวมถึงรถแท็กซี่ สามล้อเครื่อง ที่จอดแช่รอรับผู้โดยสาร ให้ดำเนินการจับปรับให้เข็ดหลาบ
         
นอกจากนี้ ยังกำชับให้ รองผกก. สว.จร.ในแต่ละสน. ลงพื้นที่สั่งการด้วยตนเอง โดยเฉพาะเร่งด่วนเช้า-เย็น โดยให้มีการประสานกับ CEO จราจรอย่างต่อเนื่อง และให้แต่ละสน.ไปจัดการสำรวจเรื่องป้ายบังคับจราจรให้มีความชัดเจน เช่น ถ้ามีป้ายเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด ให้ประสานตีเส้นจราจรให้ชัดเจน ห้ามมิให้มีรถทางตรงมาปิดช่องทางโดยเด็ดขาด

ข้อมูลโดย : crime.tnews.co.th

คลิกหารถสภาพดี ถูกที่สุดในประเทศ

www.kcycar.com


Line ID : kcycar99

www.facebook.com/kcyca



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น