จัดไฟแนนซ์รถยนต์อย่างไรให้ผ่านฉลุย !!!! (ตอน มนุษย์เงินเดือน)


วันนี้จะเสนอเกี่ยวกับข้อข้อ จัดไฟแนนซ์รถยนต์อย่างไรใ้ห้ผ่านฉลุย !!!! (ตอน มนุษย์เงินเดือน)


      เอาใจ สุดยอดมนุษย์เงินเดือนแห่งปีกันหน่อยนะคะ หลังจากได้โบนัสอั่งเป่ากันมา ก็อยากจะสรรหาภาระหนี้ใส่ตัวกัน การมีรถยนต์ ก็เป็น สิ่งที่ใช้บ่งบอกความสำเร็จได้อีกอย่างนึง 

     หลังจากใครที่พลาด ฤดูกาล "รถคันแรก" ไป  ก็เลยเปลี่ยนใจหันมาดูรถมือสองสภาพดีๆ ซักคัน แต่เราต้องลองประเมินกำลังทรัพย์และความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ ด้วยนะคะ
     ความรู้ง่ายมาแอบเผยใต๋ว่า ธนาคารเค้าจะพิจารณาจากอะไรเรามั่งลองติดตามอ่านดูนะคะ

เนื่องจากแต่ละสถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการตรวจสอบต่างกัน สิ่งที่สบันการเงินต้องการทราบจากเราคือ

http://www.car2home.net/u/cms/salaryman2.jpg
1> เงินเดือน  (รายรับต่อเดือน)
            ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจเรื่องเงินเดือนก่อน   เงินเดือน ถือเป็นสิ่งสำคัญในการขอสินเชื่อ เพราะหมายถึงความสามารถชำระหนี้ พนักงานบริษัท ข้าัราชการ พนง.รัฐวิสาหกิจ มักจะได้รับเงินเดือนส่วนใหญ่สถาบันการเงินผู้ปล่อยสินเชื่อจะมองว่ามีรายได้เข้าตลอดมีความมั่นคงสูง เพราะได้รับเงินทุกๆ สิ้นเดือน ส่วนใหญ่ในการขอสินเชื่อมักจะให้น้ำหนักกับ Base Salary (ฐานเงินเดือน) ในการให้วงเงินสินเชื่อของสถาบันการเงิน
     มนุษย์เงินเดือนแบ่งตามอาชีพและประเภทของรายได้ดังนี้


กลุ่มอาชีพนี้ ถือว่ามีความมั่นคงสูง ความน่าเชื่อถือต่อตัวบุคคล และอาชีพสูง สถาบันการเงินทุกสถาบัน มองว่า บุคคลกลุ่มนี้ ความเสี่ยงต่ำ มีความสามารถ
ในการชำระหนี้จึงคิดเกณฑ์การอนุมัติ ส่วนใหญ่ในแต่ละเดือนจะได้รับเงินเดือนตายตัว เท่าๆ กัน


เอกสารสารที่ใช้ก็จะค่อนข้างง่าย สามารถใช้สลิปเงินเดือน หรือ หนังสือรับรองเงินเดือนประกอบ แต่ทั้งนี้ต้องสัมพันธ์กับ เงินที่เข้าบัญชีด้วย

จะมีพนักงานประจำเป็นอีกกลุ่มที่มีค่าอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ค่าล่วงเวลา(OT)  ค่าคอมมิสชั่น ค่าเดินทาง ค่าน้ำมัน ค่าตำแหน่งเป็นต้น

ในส่วนรายได้ที่มีค่าอื่นๆ ด้วยนั้น หากรายได้อื่นๆ ที่ได้รับ แสดงอยู่ในสลิปเงินเดือนและมีเงินเข้าบัญชีตรงกัน ทางสถาบันการเงินมักจะนับรวมให้อยู่แล้ว


เมื่อทราบประวัติแล้ว หากคุณมีประวัติสินเชื่อที่ดี คุณก็จะได้ยอดจัด ที่สูง ยกตัวอย่างเช่น
  รถยนต์ราคา  500,000 บาท สามารถกู้ได้ 500,000 บาท เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่สถาบันการเงินมักจะให้วงเงินประมาณ  90 % ของราคากลางรถยนต์ จะอธิบายให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น
ตามภาพประกอบ
เมื่อทราบประวัติแล้ว หากคุณมีประวัติสินเชื่อที่ดี คุณก็จะได้ยอดจัด ที่สูง ยกตัวอย่างเช่น
  รถยนต์ราคา  500,000 บาท สามารถกู้ได้ 500,000 บาท เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่สถาบันการเงินมักจะให้วงเงินประมาณ  90 % ของราคากลางรถยนต์ จะอธิบายให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น
ตามภาพประกอบ


จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า แม้มีรายได้ 25,000 บาท แต่ภาระที่แสดงอยู่นั้น มีมากถึง 16,000 บาท รายได้ที่คงเหลือหลังหักค่าใช้จ่ายมีน้อยมาก ซึ่งคงจะไม่พอที่จะไปซื้อรถคันใหม่ หากต้องการขอสินเชื่อรถคันใหม่ แนะนำให้ผู้ขอสินเชื่อ ปิดภาระในระบบเครดิตก่อน ลองสมมติว่า เหลือเพียงแค่ภาระผ่อนบ้านเพียงอย่างเดียว รายได้คงเหลือก็จะมีมากเพียงพอต่อการขอสินเชื่อรถคันใหม่ ส่วนรถคันเก่าอาจจะขายเพื่อปิดภาระไป อาจโชคดีมีเงินเหลือไว้ดาวน์คันใหม่ได้อีกด้วย

ที่มา : car2home
เรียบเรียง : kcycar.com


ติดตามข่าวสารยานยนต์ก่อนใครผ่านทาง Facebook

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น